5 อันดับประเทศที่รวยที่สุดในโลก จนคุณต้องร้องว้าว

5 อันดับประเทศที่รวยที่สุดในโลก จนคุณต้องร้องว้าว

5 อันดับประเทศที่รวยที่สุดในโลก จนคุณต้องร้องว้าว
5 อันดับประเทศที่รวยที่สุดในโลก จนคุณต้องร้องว้าว

ในโลกนี้มีประเทศอยู่มากมายหลายประเทศ ซึ่งบางประเทศนั้นก็ได้พ่ายแพ้สงคราม บางประเทศก็ชนะในสงคราม บางประเทศก็เป็นประเทศเล็ก ๆ แต่ทำไมประเทศเหล่านี้ถึงได้ร่ำรวยจนเป็นประเทศที่รวยที่สุดในโลก เกิดมาจากสาเหตุอะไร วันนี้เราจะไปพาไปดูประเทศที่รวยที่สุดในโลก โดยวัดจากค่า GDP ต่อปี หรือต่อหัวในประเทศนั้น ๆ กันนะครับ

5. เริ่มจากประเทศที่รวยที่สุดในโลก อันดับสุดท้ายอย่าง สวิตเซอร์แลนด์

เริ่มจากประเทศที่รวยที่สุดในโลก อันดับสุดท้ายอย่าง สวิตเซอร์แลนด์
เริ่มจากประเทศที่รวยที่สุดในโลก อันดับสุดท้ายอย่าง สวิตเซอร์แลนด์

วัดจากค่า GDP ของประเทศ สวิตเซอร์แลนด์มาถึง 66,196 ดอลลาร์ หรือ 2 ล้าน 7 หมื่นบาทต่อคน และต่อปี จนทำให้เป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ถ้าพูดถึงสวิตเซอร์แลนด์หลายคนอาจนึกถึงนาฬิกา และมีดพก ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของสินค้าที่ชาวสวิตเซอร์แลนด์ผลิตให้กับโลก และรายได้หลักของประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้นมาจากการส่งออกยา เครื่องมือทางการแพทย์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รวมถึงการท่องเที่ยวภายในประเทศอีกด้วย และที่สำคัญคือบริการทางการเงินที่เป็นที่ทราบกันดีว่าหาใครต้องการเก็บข้อมูลเรื่องเงินให้มาเปิดบัญชีลับที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยความสามารถในการสร้าง GDP ในระดับสูง แต่มีประชากรเพียงแค่ 8 ล้าน 6 แสน คนเท่านั้น

4. ตามมาด้วยประเทศที่รวยที่สุดในโลก และดวงเฮงอย่าง คูเวต

ตามมาด้วยประเทศที่รวยที่สุดในโลก และดวงเฮงอย่าง คูเวต
ตามมาด้วยประเทศที่รวยที่สุดในโลก และดวงเฮงอย่าง คูเวต

GDP อยู่ที่ 66,387 ดอลลาร์ หรือ 2 ล้าน 8 หมื่นบาท ต่อคน และต่อปี นับตั้งแต่มีการค้นพบแหล่งน้ำมันใต้ทะเลทรายอาหรับในปี 1938 ก็ทำให้ประเทศคูเวตกลายเป็นประเทศที่ครอบครองบ่อน้ำมันสำรองมากกว่า 6% ของน้ำมันทั้งโลก แม้จะเป็นสัดส่วนที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับผู้ส่งออกรายใหญ่อย่าง ซาอุดีอาระเบีย ทว่า 90% ของน้ำมันที่ขุดได้คูเวตสามารถนำส่งออกไปขายสร้างรายได้ให้กับ GDP ของประเทศราว 40% อีกทั้งจำนวนประชากรของประเทศคูเวตมีเพียง 4 ล้าน 1 แสนคนโดย 3 ล้านคนเป็นกลุ่มคนต่างชาติที่มาลงทุนในประเทศคูเวต จนทำให้ประเทศคูเวตเป็นหนึ่งในประเทศที่รวยที่สุดในโลก

3. ประเทศที่ขุดเจอน้ำมันอย่าง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE

ประเทศที่ขุดเจอน้ำมันอย่าง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE
ประเทศที่ขุดเจอน้ำมันอย่าง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE

UAE นั้น มีค่า GDP อยู่ที่ 69,435 ดอลลาร์ หรือ 2 ล้าน 1 แสน 7 หมื่นบาท ต่อคนต่อปี เป็นอีก 1 ประเทศที่มีการค้นพบน้ำมัน จนได้พลิกฟื้นผู้คน และประเทศไปตลอดกาล จากที่เป็นประเทศเกษตรกรรม ทำการประมง ซื้อขายไข่มุก มาสู่การส่งออกน้ำมันในช่วงปี 1950 และด้วยผู้นำประเทศ ทำให้ดูไบเปลี่ยนจากหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ กลายมาเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าที่สำคัญของโลก รวมไปถึงการยกเว้นภาษีเงินได้ทำให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนอย่างมากมา ยพร้อม ๆ กับปริมาณตึกที่เพิ่มจำนวนขึ้นมาก จนทำให้เป็นหนึ่งในประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ปัจจุบันมีเพียง 20 % ที่เป็นชาว UAE โดยกำเนิดที่เหลือเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานที่นี่

2. นอร์เวย์ ขึ้นชื่อเรื่องน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ

นอร์เวย์ ขึ้นชื่อเรื่องน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ
นอร์เวย์ ขึ้นชื่อเรื่องน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ

GDP ของประเทศนอร์เวย์นั้นอยู่ที่ 76,684 ดอลลาร์ หรือ 2 ล้าน 4 แสนบาท ต่อคนต่อปี ประเทศนอร์เวย์เป็นอีก 1 ประเทศที่เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปด้วยน้ำมัน ที่มีการค้นพบน้ำมันในทะเลเหนือ เมื่อปี 1969 และสิ่งที่ช่วยพัฒนาความมั่งคั่งให้กับประเทศมากขึ้นไปอีกก็คือ ผู้นำของประเทศในการนำรายได้จากขายน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติมาจัดตั้งกองทุนแห่งชาติที่นำเงินมาลงทุนสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง จนทำให้กองทุนนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดมากกว่าเศรษฐกิจของบางประเทศเสียอีก กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่รวยที่สุดในโลก และยังคืนผลประโยชน์ให้กับประชาชนในด้านการศึกษา และสุขภาพ ทำให้ชาวนอร์เวย์ทั้ง 5 ล้าน 3 แสนคนนั้นแทบจะไม่มีช่องว่างทางการเงิน หรือปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ มีมาตรฐานการครองชีพสูง จนทำให้เกิดห้องพักของนักโทษที่มีความสะอาด และสะดวกสบาย มากกว่าห้องพักของโรงแรมของบางประเทศเสียอีก

1. อันดับที่หนึ่งคงหนีไม่พ้น ประเทศไอร์แลนด์

อันดับที่หนึ่งคงหนีไม่พ้น ประเทศไอร์แลนด์
อันดับที่หนึ่งคงหนีไม่พ้น ประเทศไอร์แลนด์

ประเทศไอร์แลนด์นั้นมี GDP อยู่ที่ 83,399 ดอลลาร์ หรือ 2 ล้าน 6 แสน 1 หมื่นบาท ต่อคน และต่อปี โดยได้ใช้วิธีการเก็บภาษีภาคธุรกิจที่ต่ำ จึงดึงดูดให้บริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลกมาตั้งฐานการผลิตอยู่ที่ประเทศไอร์แลนด์ โดยเฉพาะธุรกิจด้านการบริการ การทำบัญชี การให้บริการหลังการขาย นักธุรกิจ ซื้อขาย นายหน้า หลักทรัพย์ ผนวกกับรายได้จากการท่องเที่ยว การเกษตร และการผลิตอื่น ๆ เช่น ส่งออกโลหะ เบียร์ ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนซอฟต์แวร์ ทำให้เศรษฐกิจแข็งแกร่งจนแทบไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในยุโรป จนทำให้เป็นหนึ่งในประเทศที่รวยที่สุดในโลก อย่างไรก็ตามก็ยังมีปัญหาการเหลื่อมล้ำของประชากรที่มีอยู่ 5 ล้านคน โดย 20% ของประชากรชาวไอร์แลนด์ที่มีฐานะดีมีความร่ำรวยสูงกว่าอีก 20% ที่เป็นชาวรากหญ้า มากถึง 5 เท่ากันเลยทีเดียว

Share To :

Facebook
Twitter
Pinterest
Email