Categories
รวมบทความ

5 อันดับ สายพันธุ์ทุเรียน ครองใจชาวทุเรียนเลิฟเวอร์

ทุเรียน
5 อันดับ สายพันธุ์ทุเรียน ครองใจชาวทุเรียนเลิฟเวอร์

ทุเรียน ผลไม้รูปร่างทรงรีกลมมีหนามปกคลุม รสชาติหวานมัน และกลิ่นหอมเฉพาะตัว อันมาจากสารประกอบกำมะถัน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้กลุ่มคนที่ไม่ชื่นชอบทุเรียนจึงมักให้เหตุผลว่ามีกลิ่นฉุนจนเกินไป ส่วนบางกลุ่มที่ชื่นชอบความเฉพาะตัวของผลไม้ชนิดนี้ แม้มีส่วนประกอบเป็นสารประกอบกำมะถัน ที่ทำให้ทุเรียนมีฤทธิ์ร้อนในหากทานผลไม้ชนิดนี้ในปริมาณไม่เหมาะสม แต่ด้วยความหวานมันบวกกลิ่นเฉพาะตัว บางสายพันธุ์เมื่อรวมเนื้อสัมผัส ยิ่งเหมือนกินคัสตาร์ด ความสุกของทุเรียนก็ส่งผลต่อรสชาติ และเนื้อสัมผัสเช่นกัน 

วิธีเลือก ทุเรียน ราชาผลไม้เปลือกหนามฉบับไม่มีพลาด

เพราะความสุกของทุเรียนส่งผลต่อรสชาติ และกลิ่น การเลือกทุเรียนในความสุกที่พอเหมาะ อาจเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อทุเรียนได้ในทันที การเลือกทุเรียนที่ดี สิ่งแรกที่ควรเลือกให้เป็นคือต้องเป็นทุเรียนแก่ เมื่อเคาะแล้วจะได้ยินเสียงโปร่ง ๆ เพราะเนื้อจะเริ่มล่อนออกจากเปลือก ร่องพูแสดงเนื้อทุเรียนต้องชัดเจน เปลือกต้องมีสีน้ำตาลแห้ง และมันวาว ส่วนขั้วที่ติดกับต้นหากหลุดแปลว่าเริ่มทานได้แล้ว ซึ่งทุเรียนแก่หากแกะทานในทันทีจะได้ทุเรียนที่กลิ่นไม่แรง เนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน หากปล่อยไว้สัก 1 – 2 วัน จะได้ทุเรียนที่มีกลิ่นหอมชัดมากขึ้น และมีเนื้อที่นิ่มไปจนนุ่ม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นรสชาติของราชาของผลไม้ในประเทศไทยขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ด้วย

5 อันดับ สายพันธุ์ทุเรียนอันได้ชื่อว่า ราชาแห่งผลไม้ทั้งปวง 

แม้ชื่อเรียกทุเรียนเหมือนกัน แต่รสชาติ และกลิ่นกลับไม่เหมือนกัน การเลือกทุเรียนสายตามพันธุ์จึงสำคัญ นี่คือความแปลกใหม่ที่เราจะได้รับหากเปิดใจกับผลไม้มีหนามราชาแห่งผลไม้อย่างทุเรียน หากเริ่มเปิดใจได้แล้ว และเริ่มเลือกทุเรียนได้แล้ว สายพันธุ์ทุเรียนก็เป็นสิ่งที่ควรรู้จัก บทความนี้จึงอยากแนะนำ 5 อันดับ สายพันธุ์ทุเรียน ครองใจชาวทุเรียนเลิฟเวอร์

1.  ทุเรียนหมอนทอง

ทุเรียน
ทุเรียนหมอนทอง

สายพันธุ์ยอดฮิตที่ใคร ๆ ต่างก็ชอบทาน เพราะด้วยกลิ่นหอมเย็น ๆ ไม่ฉุนจนทำให้มือใหม่ทานไม่ได้ เนื้อค่อนข้างเยอะ เม็ดลีบ สีเหลืองทองมีเส้นใยเล็กน้อย หวานกำลังพอดี หากเลือกทานตอนยังห่าม ๆ จะได้รสชาติกรอบนอกนุ่มในกลิ่นไม่ฉุน ทุเรียนหมอนทองแก่ยังนิยมนำไปแปรรูปเป็นทุเรียนทอด รสชาติกรอบหวานมัน ไม่มีกลิ่นฉุนให้รำคาญใจ รวมถึงในจังหวัดจันทบุรีก็มีการเชื่อมทุเรียน ให้รสชาติคล้ายมันสำปะหลังเชื่อม แต่เนื้อสัมผัสจะหนึบ และเนียนกว่า หากสุกจนเกินไปก็มักนิยมนำไปแปรรูปเป็นข้าวเหนียวทุเรียน และอีกเหตุผล คือหายซื้อได้ง่าย เนื่องจากปลูกได้ทั้งในจังหวัดจันทบุรี และภาคใต้ของไทย จึงทำให้ใครต่อใครเลือกทุเรียนสายพันธุ์นี้เป็นอันดับแรก วิธีการเลือกทุเรียนสายพันธุ์นี้จึงเลือกทานได้ทั้งแบบแก่ ห่าม หรือสุกก็ได้ตามความชอบของผู้ทาน

2.  ทุเรียนก้านยาว 

ทุเรียน
ทุเรียนก้านยาว

มีลักษณะผลเป็นทรงกลมก้านยาวกว่าพันธุ์อื่น หนามเรียงเป็นระเบียบ เปลือกหนา เป็นสุดยอดทุเรียนเมืองนนท์จองยาวข้ามปี ปัจจุบันก็มีการปลูกในจังหวัดชุมพร แต่ก็ยังมีราคาค่อนข้างสูง เพราะมีกลิ่นละมุนคล้ายคัสตาร์ด รสหวานจัดกว่าหมอนทอง เนื้อเนียนเหลืองอมทอง เมล็ดขนาดกลาง ทุเรียนสายพันธุ์นี้จึงนิยมทานกันตอนสุก เพื่อชูกลิ่นหอม และเนื้ออันเป็นเอกลักษณ์ของสายพันธุ์นี้ 

3.  ทุเรียนพันธุ์ชะนี 

ทุเรียน
ทุเรียนพันธุ์ชะนี

สายพันธุ์ยอดนิยมของผู้ชอบทุเรียนอย่างแท้จริง มีเนื้อสีเหลืองทองน่าทาน รสชาติหวานจัด กลิ่นแรงกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ มีขนาดผลไม่ใหญ่มาก หนามมีขนาดใหญ่สั้น แต่เนื้อมีน้อย มักนิยมนำไปแปรรูป เพราะกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ที่ค่อนข้างแรง ทั้งทุเรียนน้ำกะทิ ทุเรียนกวน ไอศกรีมทุเรียน ทุเรียนสายพันธุ์นี้จึงนิยมทานกันตอนสุกไปจนถึงสุกเละ

4.  ทุเรียนพันธุ์หลงลับแล 

ทุเรียน
ทุเรียนพันธุ์หลงลับแล

เป็นทุเรียนที่มีขนาดเล็กกว่าพันธุ์อื่น ๆ ทรงกลมรี แรกเริ่มเป็นสายพันธุ์พื้นเมืองของจังหวัดอุตรดิตถ์ เนื้อเนียนละเอียด และมีความเหนียว เมล็ดเล็กลีบ มีกลิ่นที่ไม่แรงมาก แต่ยังผลิตได้ในจำนวนจำกัด เนื่องจากเป็นทุเรียนสายพันธุ์ที่ทานง่าย จึงทำให้ความต้องการกับผลผลิตสวนทางกัน จึงมีราคาค่อนข้างสูง 

5.  ทุเรียนพันธุ์พวงมณี 

ทุเรียน
ทุเรียนพันธุ์พวงมณี

มีผลเล็กกว่าทุเรียนสายพันธุ์อื่น ๆ ขนาดเท่าฝ่ามือเท่านั้น รสชาติหวานจัด อร่อยมาก เนื้อเนียนละเอียด สีเหลืองเข้ม เป็นสายพันธุ์พื้นเมืองของภาคตะวันออก หาซื้อได้ยากในประเทศไทย ปัจจุบันเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถูกส่งออกไปขายในประเทศจีน