5 อันดับ สัตว์สูญพันธุ์ ที่หายไปจากโลกแล้วถือว่าน่าเสียดายที่สุด

สัตว์สูญพันธุ์ เป็นหนึ่งในปัญหาที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมอย่างรวดเร็ว จึงทำให้สัตว์บางประเภท ไม่สามารถปรับตัวให้อยู่ร่วมกับสภาพบรรยากาศใหม่ ๆ ได้ และกลายเป็นการสูญพันธุ์ไปในที่สุด ซึ่งต้องยอมรับว่าทั้งในประเทศไทย และทุกประเทศทั่วโลก มีปัญหาเรื่องการสูญพันธุ์จากการล่า และการบุกรุกพื้นที่ป่าของมนุษย์ที่มากพอสมควร จึงเกิดเป็นองค์กรพิทักษ์สัตว์จากหลายแห่งที่ช่วยกันดูแล เพื่อลดอัตราความเสี่ยงของสัตว์บางประเภทที่เหลือน้อยลง เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการสูญพันธุ์ที่เพิ่มมากขึ้น ลดการส่งผลกระทบระยะยาวไปในอนาคต

สัตว์สูญพันธุ์ ปัญหาใหญ่ที่ยังถูกละเลย ทำให้สมดุลธรรมชาติเริ่มสูญเสีย

ปัญหาเรื่อง สัตว์สูญพันธุ์ กลายเป็นประเด็นที่เริ่มมีผู้คนทั่วโลกสนใจมากขึ้น เพราะ สาเหตุการสูญพันธุ์ได้แก่ การล่า การลุกล้ำพื้นที่ และการใช้ชีวิตของมนุษย์ ที่ทำให้สภาพแวดล้อมเสื่อมไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงพฤติกรรมมนุษย์ที่ทำให้เกิดทั้งความเป็นพิษ และการทำลายสิ่งแวดล้อม สัตว์บางประเภทที่อยู่ตามธรรมชาติ จึงสูญพันธุ์ไปแบบรวดเร็ว ทั้งยังมีอีกหลายสายพันธุ์ที่มนุษย์อาจจะยังไม่ค้นพบ แต่สูญหายไปตามกาลเวลา ซึ่งการส่งผลกระทบของสัตว์ที่หายไป คือ การทำให้สมดุลธรรมชาติเกิดความเสียหาย เพราะสัตว์บางประเภท ถูกสร้างมาเพื่อให้กำจัดวัชพืช หรือสัตว์บางชนิดที่เป็นคู่ปรับกัน แต่ถ้าผู้ล่าเกิดปัญหาสูญพันธุ์

ย่อมทำให้เหยื่อที่เหลือเพิ่มจำนวนมากผิดปกติ และกลายเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติไป โดยที่มนุษย์แทบไม่รู้ตัว  ซึ่งสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ส่วนใหญ่ มักจะมีลักษณะเป็นที่ต้องการของมนุษย์ เช่น การล่าเพื่อเนื้อ, หนัง, ขน, เขี้ยว หรือล่าตามความเชื่อต่าง ๆ เพื่อนำไปเป็นของขลัง และการแสดงออกถึงพลังอำนาจ เป็นต้น สำหรับการสูญพันธุ์ไม่ได้มีเพียงแค่สัตว์ใหญ่อย่างเดียว แต่สัตว์ขนาดเล็กหรือแม้แต่แมลง และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจิ๋วภายในพื้นดิน หรือแม่น้ำและทะเล ก็เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ได้ทั้งหมด ยิ่งถ้ามีการ ปล่อยสารพิษ ลงสู่แหล่งน้ำทางธรรมชาติ หรือเป็นมลภาวะที่มาตามอากาศ ย่อมสร้างผลกระทบใหญ่หลวงให้กับสัตว์ที่มีอยู่ในปัจจุบันอย่างแน่นอน

แนะนำ 5 สายพันธุ์สัตว์ที่สูญไปจากโลกอย่างน่าเสียดาย

สำหรับสัตว์สูญพันธุ์ ประเภทที่ถือว่าสูญไปจากโลกแล้ว 100% ทั้งยังเป็นการสาปสูญไปแบบน่าเสียดาย เพราะในบางสายพันธุ์มีประโยชน์ต่อธรรมชาติเป็นอย่างมาก ทั้งยังถือเป็นเอกลักษณ์ของเมือง หรือการเป็นสัตว์ที่ไม่มีสายพันธุ์ข้างเคียงใด ๆ หาไม่ได้อีกแล้วภายในโลกใบนี้ จึงถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมาก ที่คนรุ่นหลังจะไม่มีทางได้เห็นสัตว์พิเศษเหล่านี้อีกต่อไป คือ 

1.หมาป่าซิซิเลียน

หมาป่าซิซิเลียน หรือ Sicilian Wolf เป็นสายพันธุ์หมาป่าจากเกาะซิซิลี ที่สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1920 โดยเป็นประวัติศาสตร์ที่ถูกระบุจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติเวโรน่า ซึ่งมีผู้พบเห็นหมาป่าสายพันธุ์นี้ ครั้งสุดท้ายในปี 1920 และหลังจากนั้นไม่มีผู้พบเห็นการใช้ชีวิตของซิซิเลียนอีกเลย ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ สุนัขที่สูญพันธุ์ไปแล้ว คือ การถูกฆ่าเพื่อนำเนื้อมาเป็นอาหาร ให้กับผู้เลี้ยงปศุสัตว์ภายในเกาะ ทั้งยังเกิดวิกฤตสิ่งแวดล้อมด้านการขาดแคลนอาหารบนเกาะ จึงทำให้กลายเป็นสัตว์สูญพันธุ์ ไปอย่างน่าเสียดาย

2.เสือทัสมาเนีย

เสือทัสมาเนีย หรือถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าไทลาซิน และในบางพื้นที่เรียกว่าหมาป่าแทสมาเนีย เพราะมีลักษณะคล้ายหมาป่า ทั้งใบหน้าและลำตัว แต่กลับมีลายพาดที่ด้านหลังคล้ายเสือ มีจุดเด่นเรื่องฟันที่แหลมคม และสามารถกระโดดด้วย 2 ขาได้ คล้ายจิงโจ้ ทั้งยังเคยเป็นสัตว์ที่ใช้งานกระเป๋าหน้าท้องมาก่อน โดยมีถิ่นฐานหลักอยู่ภายในประเทศออสเตรเลีย ทางเกาะแทสมาเนีย สหรัฐอเมริกา ถือเป็นคู่ปรับสำคัญของเหล่านักล่าอาณานิคม เพราะมักจะลักเข้ามากินแกะและสัตว์เลี้ยง ของกลุ่มผู้ที่มาตั้งแคมป์ภายในป่ามากพอสมควร จึงทำให้กลายเป็น เสือที่สูญพันธุ์ไปแล้ว จากการถูกล่าจนจำนวนประชากรลดลงอย่างชัดเจน  และสาปสูญไปในปี ค.ศ. 1930 แต่ยังคงเหลือเสือทัสมาเนียตัวสุดท้าย ที่ถูกนำมาเลี้ยงภายในสวนสัตว์และเสียชีวิตไปในปี 1936

3.จิ้งจอกบิน 

จิ้งจอกบิน หรือ Fly Fox มีลักษณะคล้ายกับสุนัขจิ้งจอก แต่มีปีกที่สามารถบินได้ โดยจะอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากบนเกาะกวม  ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว คือ สายพันธุ์ของค้างคาวประเภทหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ และลักษณะลำตัวกับใบหน้า จะคล้ายสุนัขจิ้งจอก โดยถูกพบมากในหมู่เกาะแปซิฟิก ด้วยรูปลักษณ์ที่มีความแปลก จึงทำให้กลายเป็นเป้าของมนุษย์ ที่มีทั้งการล่าไปทำเป็นอาหาร และการนำมาเป็นอาหารสำหรับเลี้ยงงูต้นไม้สีน้ำตาล จึงทำให้สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ปี 1968 และในปัจจุบันการอาศัยอยู่ของเหล่าสุนัขจิ้งจอกบิน, พฤติกรรมการใช้ชีวิต, การอยู่อาศัย และการอพยพยังคงเป็นปริศนา

4.สิงโตทะเลญี่ปุ่น

สายพันธุ์สิงโตทะเลญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งความน่าเสียดาย ของการทำลายจากน้ำมือมนุษย์โดยแท้จริง เพราะมักจะถูกล่าเพื่อการนำหนัง หนวด และอวัยวะต่าง ๆ แม้แต่ไขมันภายในตัวของสิงโตทะเลญี่ปุ่น ไปใช้ประโยชน์กับมนุษย์ ทั้งยังถูกล่าเพื่อการใช้ในคณะละครสัตว์ จึงทำให้การสูญพันธุ์เกิดขึ้นช่วงปี 1950

5.เสือโคร่งเปอร์เซีย

ความงามและความทรงพลัง จากกลุ่มนักล่าที่ถือว่างดงามที่สุด คือ เสือโคร่งเปอร์เซีย หรือแคสเปียน ไทเกอร์ ที่สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ปี 1970 ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มสายพันธุ์แมวที่มีขนาดใหญ่ โดยให้ความยาวได้มากถึง 3 เมตร พร้อมการมีสีสันทั้งสีตัว ลวดลาย และสีตาตามธรรมชาติที่งดงามเป็นอย่างมาก แต่ประชากรกลับลดลงอย่างรวดเร็ว ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เนื่องมาจากการถูกล่าของกองทหารอาณานิคม จากประเทศรัสเซีย ทั้งยังถูกคุกคามที่อยู่อาศัย เพื่อนำพื้นที่มาทำการเกษตรของมนุษย์อีกด้วย

สัตว์สูญพันธุ์เกิดจากมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ จึงต้องมีการอนุรักษ์อย่างเต็มที่

สัตว์สูญพันธุ์ยังคงเกิดขึ้นจากน้ำมือมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะการลุกล้ำพื้นที่ เพื่อการทำเกษตร การล่าเป็นอาหาร การล่าด้วยความเชื่อต่าง ๆ และการพาณิชย์ หรือการซื้อขาย เพื่อเพียงแค่ต้องการนำไปประดับ เป็นหนึ่งในของตกแต่งบ้าน จนทำให้บางสายพันธุ์เริ่มลดน้อยลงอย่างรุนแรง แม้จะมีผู้พยายาม ปกป้องและอนุรักษ์ ไว้ แต่ก็ยังคงเป็นปัญหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันมีบางสายพันธุ์ที่ถูกประกาศเป็นสัตว์สูญพันธุ์ไปแล้วอีกด้วย

อ่านบทความอื่น ๆ >> 5 อันดับ ศัลยกรรม ที่คนนิยมทำมากที่สุด การันตีสวยเลยชาตินี้ไม่ต้องรอ

สนับสนุนโดย : https://gclubspecial168.com/ บริการเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่มีทั้ง คาสิโนออนไลน์ และการพนันออนไลน์ อื่นๆไว้คอยให้บริการท่านอย่างไม่ติดขัด