Categories
รวมบทความ

คอภาพยนตร์ต้องรู้กับ 5 หนังที่ทํารายได้มากที่สุดในโลก

หนังที่ทํารายได้มากที่สุดในโลก จะมีลิสต์รายชื่อ หนังที่ดีที่สุดตลอดกาล ในใจคุณหรือไม่ มาส่องกันเลยดีกว่า

กระแสของหนังที่ทํารายได้มากที่สุดในโลก ช่วงที่ผ่านมา

หนังที่ทํารายได้มากที่สุดในโลก

หนังที่ทํารายได้มากที่สุดในโลกมักจะมาพร้อมนักแสดง การดำเนินเรื่อง และบทที่มีคุณภาพ ซึ่งในวงการภาพยนตร์ในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะกับหนังที่ประสบความสำเร็จในการกวาดรายได้ถล่มทะลาย มักจะมีค่าใช้จ่ายหลายล้านดอลลาร์ แน่นอนว่า หนังดังตลอดกาล เหล่านี้มักจะเป็นที่หยิบยกพูดถึงอยู่เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี ซึ่งจะมีเรื่องไหนที่ประทับใจคุณจนอยากกลับมารับชมอีกครั้งบ้าง มาดูกันเลย

5 หนังที่ทํารายได้มากที่สุดในโลก ที่ตราตรึงใจผู้ชมตลอดกาล

1.Avatar (2009) : 2.9 พันล้านเหรียญ

หนังที่ทํารายได้มากที่สุดในโลก

หนังที่ทํารายได้มากที่สุดในโลกที่ครองอันดับ 1 มานานกว่า 13 ปี และยังไม่มีภาพยนตร์เรื่องใดมาทำลายสถิติได้ โดยผลงานที่ยอดเยี่ยมของ เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับแนวหน้าที่ได้ส่งต่อคุณภาพของ หนังดังพันล้าน ด้วยเรื่องราวของนาวิกโยธินหนุ่มที่เป็นอัมพาตครึ่งล่าง และต้องถูกส่งไปยังดวงจันทร์แพนโดร่า เรื่องราวผจญภัยสุดท้าทายจึงได้เริ่มเกิดขึ้น ทั้ง CG การดำเนินเรื่อง และความแปลกใหม่ จึงทำให้ Avatar ครองสถิติไปได้อย่างยาวนาน

2. Avengers: Endgame (2019) : 2.7 พันล้านเหรียญ

หนังที่ทํารายได้มากที่สุดในโลก

หนังดังระดับโลก มหากาพย์จักรวาลมาร์เวลได้ก้าวขึ้นแท่นตามมาเป็นอันดับ 2 หลังกวาดรายได้อย่างถล่มทะลายไปทั่วโลกกว่า 2.797 พันล้านเหรีญ ภายใต้การกำกับของ โจ รุสโซ่ ซึ่งเพียงแค่ในอเมริกาพวกเขาก็สามารถทำรายได้ไปแล้วมากกว่า 850 ล้านเหรียญ กับเรื่องราวการรวมตัวของเหล่าฮีโร่ค่ายมาร์เวล ที่ต้องต่อต้านธานอสและคืนความสุขให้กับจักรวาล โดยเป็นการต่อสู้เหนือจินตนาการที่สนุกจนไม่สามารถพลาดได้แม้แต่นาทีเดียว

3. Titanic (1997) : 2.19 พันล้านเหรียญ

หนังที่ทํารายได้มากที่สุดในโลก

หนังรักที่ดีที่สุดตลอดกาล สุดคลาสสิค ที่ได้แรงบันดาลใจจากโศกนาฏกรรมของเรือไททานิค จนนำมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวต่างชนชั้น ที่ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์ระทึกขวัญ นอกจากนี้ยังมีการสะท้อนมุมมองของจิตใจผู้คนให้เห็นออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ภายใต้การกำกับของ เจมส์ คาเมรอน เจ้าเดิม

4. Star Wars: Episode VII – The Force Awakens (2015) : 2.06 พันล้านเหรียญ

ภาพยนตร์แอคชั่นแฟนตาซี ที่ควบคู่มากับการผจญภัยในอวกาศ ภายใต้การกำกับของ เจเจ เอบรามส์ โดยเป็นเรื่องราวของการกอบกู้ความสงบสุขให้กับโลก เนื่องจากการคุกคามครั้งใหญ่ในกาแลคซี่ ซึ่งเป็นหนังที่ใช้ทุนสร้าง 306 ล้านเหรียญ แน่นอนว่าพวกเขาประสบความสำเร็จอย่างสูงกับการกวาดรายได้ทั่วโลก 2.06 พันล้านเหรียญ

5. Avengers: Infinity War (2018) : 2.04 พันล้านเหรียญ

ยังคงอยู่ในลิสต์ หนังที่ทํารายได้มากที่สุดในโลก ล่าสุด กับจักรวาลมาร์เวล ซึ่งเรื่องราวในภาคนี้จะเป็นการต่อสู้ที่เหล่าอเวนเจอร์ต้องเสียสละเกือบทุกอย่าง เพื่อจะสามารถเอาชนะธานอสได้ โดยที่ธานอสพยายามที่จะทำลายล้างอย่างบ้าคลั่งด้วยการตามหาอัญมณีที่สำคัญ ซึ่งมีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงความจริงของจักรวาล มีหลากหลายอารมณ์เข้ามาสอดแทรกให้ผู้ชมได้ประทับใจไปตาม ๆ กัน จนแฟนหนังหลายคนยกให้ภาคนี้เป็นภาคที่มีความเข้มข้น ซับซ้อน และน่าตื่นเต้นที่สุด ด้วยผลงานการกำกับของ 2 พี่น้องอย่าง แอนโธนี รุสโซ และ โจ รุสโซ

บทสรุปของหนังที่ทํารายได้มากที่สุดในโลก 

หนังที่ทํารายได้มากที่สุดในโลกเป็นตัวแทนของความสำเร็จด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์และศิลปะอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย ซึ่งหากท่านใดที่กำลังมองหา หนังดีที่ควรดู อยู่แล้วหละก็ บอกเลยว่า 5 เรื่องนี้สามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน

อ่านบทความจัดอันดับอื่น ๆ >> รู้ก่อนเดินทางกับ 5 เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในอเมริกา

จัดอันดับ 5 หนังสงคราม ที่ดีที่สุดตลอดกาล

Categories
รวมบทความ

รู้ก่อนเดินทางกับ 5 เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในอเมริกา

หากใครกำลังมองหา เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในอเมริกา เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการไปทำงาน เรียนต่อ หรือท่องเที่ยวแล้วหละก็ วันนี้เรามีข้อมูลค่า 5 เมืองที่น่าอยู่ที่สุดในอเมริกา มาฝาก จะมีที่ไหนบ้างมาดูกันเลย

เกณฑ์การวัดเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในอเมริกา 

เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในอเมริกา

จากการสำรวจเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในอเมริกา ของ Smartasset ได้เผยว่า รัฐที่ปลอดภัยที่สุดในอเมริกา ส่วนมากมักกระจุกตัวอยู่ในแถบแท็กซัสและแคลิฟอร์เนีย โดยวัดจากเกณฑ์ 5 ข้อดังนี้ อัตราการเกิดอาชญากรรมรุนแรง, อัตราอาชญากรรมทรัพย์สิน, อัตราการเสียชีวิตจากยานพาหนะ, อัตราการเสียชีวิตจากพิษจากยาเสพติด และ เปอร์เซ็นต์ของประชากรที่ดื่มมากเกินไป 

5 เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในอเมริกา ที่ต้องไปสัมผัสสักครั้ง

1.ฟริสโก เท็กซัส

เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในอเมริกา

ครองอันดับ 1 ในฐานะ เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในอเมริกา ซึ่งเป็นเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยราว ๆ 200,000 คน มีอัตรการก่ออาชญากรรมต่ำสุด จากสถิติการก่อเหตุ 86 คดีต่อประชากร 100,000 คน ส่วนสถิติการก่ออาชญากรรมต่อทรัพย์สินต่ำอยู่ในอันดับ 6 ราว ๆ 972 คดี ต่อประชากร 100,000 คน รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนต่อปีจะอยู่ที่ 128,761 ดอลลาร์

2.แมคคินนีย์ เท็กซัส

เป็นอีก เมืองน่าอยู่ในอเมริกา 2022 จากสถิติการต่ออาชญากรรมทางด้านทรัพย์สินต่ำอยู่ในอันดับ 4 ส่วนการก่ออาชญากรรมจะอยู่ที่ 936 คดีต่อประชากร 100,000 คน โดยมีผู้อยู่อาศัยอยู่ราว ๆ 200,000 คน รายได้ต่อปีเฉลี่ยอยู่ที่ 122,000 ดอลลาร์ต่อครัวเรือน

3.ซานตาแคลริต้า แคลิฟอร์เนีย

เป็นอีกเมืองที่ตอบโจทย์ รัฐไหนในอเมริกาน่าอยู่ที่สุด เนื่องจากมีการก่ออาชญากรรมต่อทรัพย์สินที่ 907 ต่อ ประชากร 100,00 คน ซึ่งเป็นอันดับต่ำที่ 3 จากเมืองทั้งหมด รวมถึงการเสียชีวิตจากยาเสพติดยังอยู่ในอันดับที่ 20 กับสถิติ 10.5 ต่อ 100,000 คน ประชากรมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 100,932 ดอลลาร์ต่อครัวเรือน

4.เกลนเดล แคลิฟอร์เนีย

เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในอเมริกา

เป็น เมืองน่าอยู่ในอเมริกา เนื่องจากมีการก่อเหตุอาชญากรรมที่รุนแรงต่ำสุดราว ๆ 103 ต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งผู้คนที่อยู่อาศัยมีประมาณ 200,000 คน นอกจากนี้ยังมีอัตรการเสียชีวิตจากยาเสพติดที่ต่ำเฉลี่ย 10.5 ต่อ 100,000 คนอีกด้วย

5.ซันนีเวล แคลิฟอร์เนีย

เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในอเมริกา

เมืองที่มีผู้อยู่อาศัยราว ๆ 150,000 คน มีอัตราการเสียชีวิตจากยาเสพติดต่ำเป็นอันดับที่ 13 ราว ๆ 9.4 ต่อประชากร 100,000 คน มีการก่อเหตุอาชญากรรมเฉลี่ยอยู่ 2,350 ต่อประชากร 100,000 คน ความปลอดภัยส่วนใหญ่จะอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง มีรายได้ต่อครัวเรือนอยู่ที่ 150,464 ดอลลาร์ต่อปี

การรู้ข้อมูลเมืองที่ปลอดภัยที่สุดในอเมริกา สำคัญแค่ไหน

เมืองที่ปลอดภัยที่สุดในอเมริกาอาจจะไม่สามารถการันตีความเสี่ยงได้ 100% แต่ก็ทำให้ผู้ศึกษาข้อมูลได้รู้ถึงปัญหาและหลีกเลี่ยงได้ แน่นอนว่าหากมีรัฐที่ปลอดภัยก็ต้องมี รัฐที่อันตรายที่สุดในอเมริกา เช่นกัน โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในแถบ รัฐหลุยส์เซียน่าและรัฐเนวาดา หากไม่จำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยง

อ่านบทความจัดอันดับอื่น ๆ >> ส่อง 5 เมืองที่หนาวที่สุดในโลก 2023

สายกินห้ามพลาดกับ 5 ประเทศที่อาหารอร่อยที่สุดในโลก 

Categories
รวมบทความ

สายกินห้ามพลาดกับ 5 ประเทศที่อาหารอร่อยที่สุดในโลก 

ประเทศที่อาหารอร่อยที่สุดในโลก เป็นสถิติจากผู้ตอบแบบสำรวจทั่วโลก ที่มีความเห็นตรงกันมากที่สุด ซึ่งภูมิภาคไหนจะเป็นแหล่งรวมของ อาหารที่อร่อยที่สุดในโลก มาดูกันเลย

เสน่ห์ที่แตกต่างของประเทศที่อาหารอร่อยที่สุดในโลก 

ประเทศที่อาหารอร่อยที่สุดในโลก

สำหรับประเทศที่อาหารอร่อยที่สุดในโลก ล้วนมีความอร่อยและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ซึ่งส่วนใหญ่จะสอดคล้องกับการดำรงชีวิตและพื้นที่ในภูมิภาคนั้น ๆ อย่างเช่นประเทศจีนก็จะนิยมเรื่องเมนูเส้น ประเทศอินเดียจะขึ้นชื่อเรื่องเครื่องเทศ หรือประเทศฝรั่งเศสจะมีชื่อเสียงขนมปัง และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามาดูกันเลยดีกว่าว่าคำตอบของ อาหารประเทศอะไรอร่อยที่สุดในโลก จะอยู่ที่ไหนบ้าง

5 ประเทศที่อาหารอร่อยที่สุดในโลก รสชาติถูกปากคนส่วนใหญ่

1.อิตาลี

ประเทศที่อาหารอร่อยที่สุดในโลก

ครองอันดับ 1 ของ ประเทศที่อาหารอร่อยที่สุดในโลก เนื่องจากมีรสชาติดึงดูดต่อมรับรสของผู้คนมานานแสนนาน นอกจากนี้ยังมีมะเขือเทศที่นำมาใช้ปรุงอาหารรสเผ็ดร้อน โดยพื้นฐานแล้วอาหารส่วนใหญ่มักมีส่วนประกอบของครีม น้ำมันมะกอก กระเทียม แป้ง ไวน์ เป็นต้น สำหรับเมนูที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกนั้นได้แก่ พิซซ่า พาสต้า ลาซานย่า 

2.เม็กซิโก

ประเทศที่อาหารอร่อยที่สุดในโลก

ประเทศที่อาหารเผ็ดที่สุดในโลก และยังมีความอร่อยของเมนูตามมาเป็นอันดับ 2 เพราะในเม็กซิโกนั้นขึ้นชื่ออย่างมากในเรื่องเครื่องเทศ ซึ่งเป็นสูตรการปรุงรสมาตั้งแต่ดั้งเดิม ส่วนผสมหลักจะใช้ ชิลีเปปเปอร์ ข้าวโพด มะเขือเทศ ผักชีและออริกาโนเม็กซิกัน เป็นหลัก อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องทานควบคู่เลยคือแป้งตอติญ่าที่ไม่เหมือนใคร สำหรับเมนูยอดนิยมทั่วโลกได้แก่ ทาโก้ เบอร์ริโต้ และ สตูว์ไก่

3.สเปน

มักจะมีเมนูติดอยู่ใน 50 อันดับอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก เสมอ มีการปรุงอาหารจากการผสมผสานของประเพณีดั้งเดิมเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว มี ซุปที่อร่อยที่สุดในโลก อย่าง กัซปาโช มาการันตี สำหรับเครื่องปรุงส่วนใหญ่มักจะใช้ น้ำมันมะกอก ปาปริก้า กระเทียม มะเขือเทศ และหัวหอม ทานกับเนื้อสัตว์และผักอย่างลงตัว สร้างสรรค์เป็นเมนูที่น่าทึ่งได้มากมายไม่ว่าจะเป็น กัซปาโช่ คร็อกเก้ หรือ ปาเอยา เป็นต้น

4.ญี่ปุ่น

อาหารที่มีความประณีตและโภชณาการสูง มีเสน่ห์ในเรื่องของเทคนิคการปรุงรส จากส่วนผสมที่น่าทึ่งไม่ว่าจะเป็น วาซาบิ โชยุ สาหร่าย และเส้น ที่นำมาคลุกเคล้าผสมผสานให้เกิดเป็นเมนูจากเนื้อสัตว์ประจำถิ่นอย่าง ปลาไหล เนื้อโกเบ หรือ หมูคุโรบุตะ เป็นต้น สำหรับอาหารยอดนิยมที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนได้แก่ ซูชิ ทาโกะยากิ อุด้ง ตลอดจน ข้าวหน้าแกงกะหรี่

5.ไทย

ประเทศที่อาหารอร่อยที่สุดในโลก

ปิดท้ายด้วยประเทศที่มีอาหารสตรีทฟู้ดยอดนิยมที่ชาวต่างชาติชื่นชอบทั่วโลก การันตีจาก อาหารอันดับ 1 ของโลก อย่าง แกงมัสมั่น โดยเมนูส่วนใหญ่มักใช้ผักสมุนไพร มะนาว กระเทียม พริกขี้หนู เกลือ น้ำตาล มาเป็นส่วนประกอบ อาหารตั้งแต่ดั้งเดิมได้รับอิทธิพลมากจากอินเดีย มีรสชาติเผ็ดร้อนและเข้มข้น เมนูยอดนิยมที่รู้จักกันทั่วโลกได้แก่ ส้มตำ ต้มยำกุ้ง ข้าวผัดกะเพรา และ ผัดไทย เป็นต้น

ประเทศ ที่อาหารอร่อยที่สุดในโลก มื้อที่คุณต้องลองให้ได้สักครั้ง

สำหรับประเทศที่อาหารอร่อยที่สุดในโลก มักเป็นอีกจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากไปลองสัมผัสรสชาติพื้นเมืองด้วยตัวเอง แน่นอนว่าการที่จะเป็น 1 ใน 10 อาหารที่อร่อยที่สุดในโลก ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเรื่องรสชาตินั้นไม่สามารถตัดสินได้จากปากเพียงคนเดียวได้ แต่ต้องมีความเชื่อถือและน่าดึงดูดสำหรับหลาย ๆ คนที่เคยได้รับประทานด้วย

อ่านบทความอื่น ๆ >> 5 ผู้จัดการทีมฟุตบอล ที่ได้รับค่าตอบแทนมากที่สุดปี 2023

จัดอันดับ 5 ประเทศที่รัฐล้มเหลว ที่สุดในโลก

Categories
รวมบทความ

5 ผู้จัดการทีมฟุตบอล ที่ได้รับค่าตอบแทนมากที่สุดปี 2023

รายชื่อ ผู้จัดการทีมฟุตบอล ที่เรานำมากฝากกันในวันนี้ มีกุนซือมากมายจากลีกยุโรป ไม่ว่าจะเป็น โค้ชพรีเมียร์ลีก หรือ ลาลีก้า สเปน จะมีใครติด TOP 5 บ้างมาดูกันเลย

ทำความรู้จักผู้จัดการทีมฟุตบอล 

ผู้จัดการทีมฟุตบอล

ผู้จัดการทีมฟุตบอลส่วนใหญ่พวกเขามักจะทำสัญญากับสโมสรที่น่าเชื่อถือ โดยมีเงื่อนไขเป็นไปตามที่ตกลงอย่างเข้มงวด กับความรับผิดชอบในการพาทีมนั้น ๆ ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งกุนซือส่วนใหญ่จะมีหน้าที่ศึกษาหากลยุทธ์ที่เหมาะสม และยังต้องประเมินเกมการแข่งขันอย่างรอบคอบ คอยดูแลรับผิดชอบสภาพร่างกายของผู้เล่นให้ดีอยู่สม่ำเสมอ โดยภายใต้ความกดดันหากโค้ชเหล่านั้นสามารถพาสโมสรทำผลงานออกมาได้ดี การต่อสัญญาหรือการเจรจา เงินเดือน ผู้จัดการ ทีมฟุตบอล ก็จะมีแนวโน้มที่มูลค่าเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

ผู้จัดการทีมฟุตบอล ที่มีรายได้สูงที่สุดในโลก

1.ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ : 3.33 ล้านยูโรต่อเดือน

ผู้จัดการทีมฟุตบอล

ผู้จัดการทีมฟุตบอล ที่ครองแชมป์ในฐานะ กุนซือที่มี เงินเดือน ผู้จัดการ ทีมฟุตบอล มากที่สุดในขณะนี้ ราว ๆ 39.6 ล้านยูโรต่อปี หลังมีบทบาทคุมแอตมาดริด มานานกว่า 10 ปี และยังพาสโมสรคว้าแชมป์ลาลีก้าสเปนได้ถึง 2 สมัย ในซีซั่น 2013–14 และ 2020–21 จึงไม่แปลกใจเลยที่ทางสโมสรจะไว้ใจและให้ค่าตอบแทนเขาอย่างงดงาม

2.เป๊ป กวาร์ดิโอลา : 1.89 ล้านยูโรต่อเดือน

ผู้จัดการทีมฟุตบอล

หนึ่งใน โค้ชที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ในทศวรรษนี้ หลังจากย้ายมาคุม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2016 และสามารถพาสโมสรคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ได้ 4 สมัย โดยก่อนหน้านั้นเจ้าตัวได้ผ่านการคุมทีมดังในยุโรปและประสบความสำเร็จมากมายไม่ว่าจะเป็น บาร์เซโลน่า หรือ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งปัจจุบันเป๊บได้กลายมาเป็นกุนซือที่ได้รับค่าตอบแทนสูงที่สุดในเกาะอังกฤษ โดยมีมูลค่าคาดการณ์กว่า 22 ล้านยูโรต่อปี

3.เจอร์เก้น คล็อปป์ : 1.49 ล้านยูโรต่อเดือน

ผู้จัดการทีมฟุตบอล

ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ที่เข้ามาทำหน้าที่ในปี 2015 สามารถพาสโมสรประสบความสำเร็จสูงสุดกับ แชมป์พรีเมียร์ลีก ในรอบ 30 ปี และ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ซึ่งปัจจุบันเจ้าตัวได้รับค่าเหนื่อยอยู่ประมาณ 17.8 ล้านยูโรต่อปี

4.อันโตนิโอ คอนเต้ : 1.49 ล้านยูโรต่อเดือน

กุนซือมากประสบการณ์ที่เคยประสบความสำเร็จกับสโมสรมากมายไม่ว่าเป็น ยูเวนตุส อินเตอร์มิลาน หรือ เซลซี ซึ่งการเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมให้กับสเปอร์สในปี 2021 ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจจากทีมและได้ค่าตอบแทนสูงเป็นอันดับต้น ๆ โดยผลงานที่ยอดเยี่ยมคือการพาไก่เดือยทองคว้าตั๋วไปเล่นแชมป์เปียนส์ลีก ปาดหน้าอาร์เซลนอลได้ในซีซั่นก่อนนั่นเอง

5.มักซิมิลเลียโน อัลเลกรี : 1.17 ล้านยูโรต่อเดือน

ข้ามฝากมาในฝั่ง กัลโช่ เซเรียอา กับผู้จัดการทีมยูเวนตุสที่ได้รับค่าเหนื่อยเป็นอันดับ 5 ราว ๆ 14 ล้านยูโรต่อปี โดยเจ้าตัวเป็นกุนซือที่ได้รับค่าตอบแทนสูงที่สุดของลีก แม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาจะทำผลงานได้ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ก็ตาม

บทสรุปของการเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล

รายชื่อผู้จัดการทีมฟุตบอล ที่เรานำเสนอในวันนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง เนื่องด้วยผลงานของพวกเขาค่อนข้างรักษามาตรฐานได้ในระดับที่สูง จึงไม่แปลกเลยที่ ค่าเหนื่อยผู้จัดการทีมฟุตบอล ของบุคคลเหล่านี้ จะมีมูลค่าตัวเลขที่สูงตามความสามารถของตนเอง ที่สำคัญสิ่งที่พวกเขากำลังทำหน้าที่นั้นย่อมเป็นที่จับตามองของแฟนกีฬาทั่วโลก หากทำผลงานออกมาได้ไม่ดีก็เสี่ยงตกงานเช่นกัน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยทำผลงานได้ยอดเยี่ยมก็ตาม

อ่านบทความอื่น ๆ >> ส่อง 5 เมืองที่หนาวที่สุดในโลก 2023

5 ประเทศที่มีอาชญากรรมมากที่สุด 2023

Categories
รวมบทความ

ส่อง 5 เมืองที่หนาวที่สุดในโลก 2023

เมืองที่หนาวที่สุดในโลก ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในแถบ ประเทศที่หนาว ในแถบขั้วโลกเหนือหรือยุโรป ซึ่งจะมีที่ไหนที่สภาพอากาศเย็นสุดขั้วจนปากสั่นบ้าง มาดูกันเลย

เมืองที่หนาวที่สุดในโลก ต้องเผชิญกับอะไรบ้าง

เมืองที่หนาวที่สุดในโลก

เมืองที่หนาวที่สุดในโลกใช่ว่าผู้คนจะมีความสุขเสมอไป ซึ่งในฐานะที่ประเทศไทยที่เราอาศัยนั้น ค่อนข้างมีอากาศที่ร้อน ผู้คนส่วนใหญ่จึงชื่นชอบอากาศที่หนาวในช่วงเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม ประเทศที่หนาวทั้งปี ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการใช้ชีวิตยกตัวอย่างเช่น หิมะที่หลาย ๆ คนมองว่าเป็นสิ่งที่สวยงามและอยากจะไปสัมผัสสักครั้ง แต่รู้หรือไม่ว่ามันกลายเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางและยังส่งผลต่อสุขภาพของผู้คน ทั้งระบบหายใจ ระบบผิวหนัง สุขภาพจิต ที่สำคัญยังไม่สามารถเพาะปลูกหรือทำการเกษตรได้อย่างเต็มที่อีกด้วย 

5 เมืองที่หนาวที่สุดในโลก ซ่อนตัวอยู่ที่ไหน

1.ยาคุตสค์ ประเทศรัสเซีย

เมืองที่หนาวที่สุดในโลก

ขึ้นแท่นครองอันดับ 1 ของเมืองที่หนาวที่สุดในโลก ซึ่งสถานที่แห่งนี้มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ -35°C ประชาชนส่วนใหญ่คุ้นเคยกับสภาพอากาศและต้องพยายามเอาตัวรอดให้ได้ในช่วง ฤดูหนาว จัด เนื่องจากความเย็นของที่นี่มีจุดเยือกแข็งที่สามารถลดลงได้ถึง -70°C เลยทีเดียว

2.โอมยาคอน รัสเซีย

เมืองที่หนาวที่สุดในโลก

เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่ได้รับการการันตีว่าเป็นเมืองที่หนาวที่สุดในโลก รัสเซีย ครองอันดับ 2 รองลงมาจากยาคุตสค์ โดยเมืองนี้เป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่ไม่มากราว ๆ 500 คน สภาพแวดล้อมและข้าวของส่วนใหญ่มักถูกแช่แข็ง อุณภูมิเฉลี่ยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ -50°C

3.อูลานบาตอร์ มองโกเลีย

เมืองที่หนาวที่สุดในโลก

เมืองหลวงของประเทศที่มีสภาพอากาศหลากหลาย โดยในช่วงกลางวันอุณหภูมิจะอยู่เพียง 25°C ส่วนช่วงกลางคืนในฤดูกาลปกติจะอยู่ที่ 11°C แต่เมื่อเข้าสู่ช่วง ฤดูหนาว อย่างเป็นทางการ เมืองแห่งนี้จะมีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ -40°C เลยทีเดียว

4.เยลโลว์ไนฟ์ แคนาดา

ข้ามฟากมาในทวีปอเมริกาเหนือ ซึ่งแคนาดาก็เป็นอีกรายชื่อที่ติดอยู่ใน ประเทศที่หนาวที่สุดในโลก 2022 โดยเมืองแห่งนี้จะมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 20,000 คน สำหรับอุณหภูมิในช่วงหน้าหนาวจะอยู่ที่ -26°C และแม้จะมีสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด แต่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีแสงเหนือที่สวยงามให้รับชมอยู่นั่นเอง

5.ฮาร์บิน ประเทศจีน

ปิดท้ายด้วย ประเทศที่หนาวที่สุดในเอเชีย อย่างจีน ซึ่งเมืองฮาร์บินนั้นได้รับการขนานว่าเป็น “เมืองน้ำแข็ง” ของแดนมังกร เนื่องจากหน้าหนาวจะมีอุณหภูมิที่ต่ำลงไปถึง -24°C เลยทีเดียว โดยเฉพาะในเดือนมกราคม

วิธีรับมือของเมืองที่หนาวที่สุดในโลก

ผู้คนที่คุ้นชินกับสภาพอากาศในเมืองร้อน มักยังไม่ค่อยเข้าใจวิถีชิวิตของ เมืองที่หนาวที่สุดในโลกเท่าไหร่นัก ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงการสวมเสื้อผ้าหนา ๆ อย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจเท่านั้น แต่คนในพื้นที่ต้องเตรียมรับมือล่วงหน้ากับหลาย ๆ อย่าง เช่น ทำความสะอาดรางน้ำและซ่อมแซมรอยรั่วบนหลังคา, ตรวจสอบและทำความสะอาดเตาผิงและปล่องไฟ, สต็อกอาหารที่ไม่ต้องปรุงหรือแช่เย็น เป็นต้น ที่สำคัญยังต้องใส่ใจสุขภาพของเด็กและผู้สูงอายุ ที่มีโอกาสจะได้รับผลกระทบจากการที่เป็นเมืองที่หนาวที่สุดในโลก องศา ต่ำอีกด้วย

อ่านบทความอื่น ๆ >> ส่อง 5 คู่ ดาราที่เลิกกัน

5 ประเทศที่มีอาชญากรรมมากที่สุด 2023

Categories
รวมบทความ

5 ประเทศที่มีอาชญากรรมมากที่สุด 2023

ประเทศที่มีอาชญากรรมมากที่สุด มักจะพบอยู่ในแถบอเมริกาใต้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจากการสำรวจพบว่ามีประเทศถึง 3 ประเทศ ที่อยู่ลิสต์ 1 ใน 10 ประเทศที่อันตรายที่สุดในโลก

ประเทศที่มีอาชญากรรมมากที่สุด ที่นักท่องเที่ยวควรหลีกเลี่ยง

ประเทศที่มีอาชญากรรมมากที่สุด

ประเทศที่มีอาชญากรรมมากที่สุดส่วนใหญ่มักมีตั้งแต่การปล้นชิงทรัพย์ จับตัวเรียกค่าไถ่ ข่มขืน ยาเลพติด ค้ามนุษย์ ตลอดจนการฆาตกรรม ซึ่งส่วนมากจะเป็น ประเทศที่อันตรายที่สุด สําหรับผู้หญิง เนื่องจากมีความปลอดภัยที่ต่ำและไม่สามารถการันตีเรื่องชีวิตรวมถึงทรัพย์สินให้ได้ นักท่องเที่ยวจึงควรหลีกเลี่ยงหรือศึกษาให้ดีก่อนที่จะไปท่องเที่ยว

5 ประเทศที่มีอาชญากรรมมากที่สุด ที่ไม่ควรย่างกรายเข้าไปอย่างยิ่ง

1.เวเนซุเอลา

ประเทศที่มีอาชญากรรมมากที่สุด

ครองอันดับ 1 ในฐานะประเทศที่มีอาชญากรรมมากที่สุด อย่างรวดเร็ว หลังมีระบบเศรษฐกิจที่ล่มสลาย เงินเฟ้อจนธนบัตรไม่มีค่ากลายเป็นเศษกระดาษ ประชากรประสบปัญหาความยากจนและตกงาน มีสถิติการก่อเหตุอาชญากรรมเฉลี่ยอยู่ที่ 83.76% กฎหมายส่วนใหญ่บังคับใช้ไม่ได้ผล จึงเกิดการก่อเหตุที่รุนแรงต่อประชาชนหรือนักท่องเที่ยวให้เห็นเป็นประจำ

2.ปาปัวนิวกินี

ประเทศที่มีอาชญากรรมมากที่สุด

ประเทศที่เถื่อนที่สุดในโลก อีกหนึ่งแห่ง ที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง เพราะมีสถิติเผยออกมาว่าเป็นประเทศที่มีการก่อเหตุอาชญากรรมเฉลี่ยสูงถึง 80.79% เนื่องจากสภาพสังคมที่ด้อยพัฒนาและล้าหลัง การก่อเหตุรุนแรงส่วนใหญ่มาจากสาเหตุการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้รับการศึกษา มีกลุ่มแก๊งติดอาวุธเป็นจำนวนมาก การต่ออาชญากรรมมีตั้งแต่การลักขโมยไปจนถึงฆาตกรรม

3.แอฟริกาใต้

ประเทศที่มีอาชญากรรมมากที่สุด

จากการจัด อันดับประเทศที่อันตรายที่สุดในโลก แอฟริกาใต้สูงอยู่ในที่ 3 กับเฉลี่ย 76.86% เนื่องจากมีการทำร้าย ข่มขืน การฆาตกรรม ที่สถิติสูงขึ้นเรื่อย ๆ จากสาเหตุความยากจน ความไม่เทียม การว่างงาน ส่งผลให้สภาพแวดล้อมทางสังคมรุนแรงกว่าปกติ  ที่สำคัญมีเฉลี่ยการข่มขืนที่สูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการออกมาเผยแพร่ว่าสำนักงานตำรวจของแอฟริกาใต้กลายเป็นสถานบันที่มีการทุจริตมากที่สุดในประเทศ จึงไม่แปลกใจเลยที่เราจะเห็นความรุนแรงต่อชาวต่อชาติเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

4.อัฟกานิสถาน

ประเทศที่มีสงครามมากที่สุด คงหนีไม่พ้นการก่อเหตุรุนแรงภายในประเทศ เนื่องจากมีสถิติของอาชญากรรมอยู่ที่ 76.31% โดยมีการก่อเหตุที่แพร่หลายไม่ว่าจะเป็น การทุจริต การข่มขืน การฉกฉวย การลักพาตัว หรือก่อการร้าย ทำให้อัฟกานิสถานกลายเป็น ประเทศที่อันตรายที่สุดในเอเชีย

5.ฮอนดูรัส

มีสถิติการก่อเหตุอาชญากรรมอยู่ที่ 74.54%  มีอัตราการฆาตกรรมที่สูงถึง 44.7 ต่อประชากร 100,000 คน สาเหตุหลักมาจากความไม่มั่นคงทางการเมือง ที่มีการบริหารล้มเหลว และยังมีการค้ายาเสพติดข้ามชาติรายใหญ่ระดับโลกอีกด้วย ซึ่งความรุนแรงมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ

บทสรุปของประเทศที่มีอาชญากรรมมากที่สุด

ประเทศที่มีอาชญากรรมมากที่สุดส่วนใหญ่เกิดจากสภาวะของสังคมที่ย่ำแย่ ชีวิตของประชาชนส่วนใหญ่ไร้คุณภาพ จึงต้องหาวิธีที่ไม่สะอาดเพื่อดำรงชีวิตให้อยู่รอดต่อไป อย่างไรก็ตามเมื่อมีประเทศที่อาชญากรรมมากที่สุดก็ต้องมี ประเทศที่มีอาชญากรรมน้อยที่สุด เช่นกัน โดยส่วนใหญ่จะรวมตัวอยู่ในแถบยุโรปไม่ว่าจะเป็น สวิตเซอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, เนเธอร์แลนด์, ออสเตรีย หรือในเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น เนื่องจากประเทศเหล่านี้มักมีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด จริงจัง และมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงคุณภาพชีวิตของประชากรส่วนใหญ่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอีกด้วย

อ่านบทความอื่น ๆ >> 5 อันดับเว็บไซต์เพื่อความบันเทิง ที่หลายคนนิยมใช้มากที่สุด

ส่อง 5 คู่ ดาราที่เลิกกัน

Categories
รวมบทความ

ส่อง 5 คู่ ดาราที่เลิกกัน

สำหรับ ดาราที่เลิกกัน ที่เรานำข้อมูลมาบอกต่อในวันนี้ ล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทางด้านวงการบันเทิงในต่างประเทศ ทั้ง ดาราเลิกกันแบบเงียบๆ หรือ เลิกกันจนเป็นกระแส จะมีใครที่คุณรู้จักบ้าง มาดูกันเลย

ดาราที่เลิกกัน ไม่ได้แปลว่าพวกเขาล้มเหลวทางความรัก

ดาราที่เลิกกัน

ดาราที่เลิกกันนั้นเราไม่สามารถไปตัดสินใจแทนพวกเขาได้ ซึ่งอาจจะมีปัญหาบางอย่างที่สะสมมานานหรือไลฟ์สไตล์ที่ไม่ตรงกัน แม้ในบางคู่จะเป็น ดารา มีลูก เลิกกัน แล้วก็ตาม แต่เมื่อพวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ ก็ไม่ผิดที่จะเลือกความสบายใจและจุดยืนที่ต้องการให้กับชีวิตตัวเอง 

5 ดาราที่เลิกกัน และเซเลบริตี้ที่แยกทาง 

1.จอห์นนี เดปป์ – แอมเบอร์ เฮิร์ด

ดาราที่เลิกกัน

ดาราที่เลิกกันสะเทือนวงการบันเทิง หลังมีข่าวการฟ้องร้องที่โกลาหล จนมีบทสรุปโดยทางป๋าเดปปเป็นฝ่ายชนะคดี เป็นคู่ ดาราเลิกฟ้าผ่า ที่ปิดฉากความรักอันหอมหวานอย่างไม่น่าประทับใจทั้ง 2 ฝ่าย

2.เดวิน บุ๊กเกอร์ – เคนดัลล์ เจนเนอร์

ดาราที่เลิกกัน

เป็น ข่าวดาราเลิกกันล่าสุด หลังจากเคยยุติความสัมพันธ์มาก่อนหน้านั้นในเดือนมิถุนายน 2022 จนทั้งคู่ได้กลับมาสานสัมพันธ์กันอีกครั้ง และตัดสินใจเลิกรากันในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีการรายงานข่าวว่าทั้งคู่ตัดสินใจจบความสัมพันธ์กันด้วยดี

3.แบรด พิตต์ – แองเจลินา โจลี

ดาราที่เลิกกัน

ดาราที่คบกันนานแล้วเลิก แม้จะมีลูกด้วยกันแล้ว ซึ่งเป็นการตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ 12 ปี แบบร้าวราน จนเรื่องถึงศาล ซึ่งเป็นฝ่ายแองเจลินาที่ชนะคดี จากการที่เธอกล่าวว่าฝ่ายชายทำร้ายร่างกายและจิตใจต่อหน้าบุตร เป็นเรื่องยากที่เราจะได้เห็นคู่ขวัญคนดังกลับมารีเทิร์นใหม่อีกครั้ง

4.คานเย เวสต์ – คิม คาร์เดเชียน

นักร้องเลิกแฟน แม้จะมีโซ่ทองคล้องใจด้วยกันแล้วก็ตาม โดยเป็นเรื่องราวการยุติความสัมพันธ์ที่อลเวงสุด ๆ ในปีที่ผ่านมา จนนำไปสู่การหย่าร้าง เนื่องด้วยเหตุผลการใช้ชีวิตที่ต่างกัน ซึ่งฝ่ายชายได้ออกมาเผยเหตุผลว่าตนเองอึดอัดกับการใช้ชีวิตที่หรูหราของฝ่ายหญิง ในขณะที่คิมต้องการช่องว่างในอนาคตเช่นกัน โดยที่ทั้ง 2 ฝ่าย จะโฟกัสไปที่ลูกของพวกเขามากกว่านั่นเอง

5.แฮร์รี่ สไตล์ส – โอลิเวีย ไวลด์

ดาราเลิกกัน 2565 ล่าสุด ซึ่งเป็นคู่รักต่างวัยที่ดำเนินความสัมพันธ์มาเกือบ 2 ปี แต่ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาได้มีการรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศว่าทั้งคู่ ไม่ได้ไปต่อในฐานะคนรัก แต่ยังคงรักษาความสัมพันธ์ด้วยการเป็นเพื่อนสนิทอยู่

บทสรุปของ ดาราที่เลิกกันทั้ง 5 คู่

เห็นได้ชัดว่าสาเหตุของดาราที่เลิกกัน ที่หยิบยกมาฝาก ล้วนมีเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะจบลงด้วยดีหรือไม่ดีก็ตาม เราก็ควรให้เกียรติ คู่รัก เลิก กันอย่างสุภาพ โดยที่ไม่แสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ถ้อยคำรุนแรง เพราะภายภาคหน้าพวกเขาเหล่านี้อาจจะเจอคนที่ดีกว่า หรือกลับมารักกันในเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์แบบก็เป็นได้

5 อันดับเว็บไซต์เพื่อความบันเทิง ที่หลายคนนิยมใช้มากที่สุด

5 ผู้จัดการทีมฟุตบอล ที่ได้รับค่าตอบแทนมากที่สุดปี 2023