เปิดลิสต์ 10 อันดับ น้ำหอมผู้ชาย ที่หอมจนใครๆก็ต้องเหลียวมอง น้ำหอมถือเป็นตัวช่วยเสริมสร้างบุคลิกและความมั่นใจของทุกคนให้มีมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง และปัจจุบันนี้ก็มี น้ำหอมแบรนด์ผู้ชาย ที่ผลิตออกมาเยอะแยะเต็มไปหมด หลากหลายแบรนด์ หลากหลายกลิ่น มีทั้งกลิ่นเซ็กซี่เย้ายวน กลิ่นหอมแบบเฟรชๆ แนวสปอร์ต และยังมีอีกสารพัดกลิ่นให้คุณผู้ชายเลือกกันไม่ถูกเลยทีเดียว วันนี้เราจึงมาเปิดลิสต์น้ำหอมผู้ชาย ที่ควรมีติดไว้ หอมจนสาวๆเหลียวหลังมองกันเลยแหละ
น้ำหอมผู้ชาย ที่หนุ่มๆควรมี กลิ่นหอมติดทน เพิ่มเสน่ห์ให้น่าหลงใหล
การเลือกซื้อน้ำหอม นั้นเป็นอะไรที่หลายคนกังวลกันอยู่ไม่น้อยทีเดียว เพราะกลัวว่ากลิ่นจะไม่ติดทน กลิ่นฉุน กลิ่นไม่หอม อีกประการกลัวว่า กลิ่นเหงื่อผสมกับกลิ่นน้ำหอมจะทำให้ยิ่งแย่ลง เพราะฉะนั้นการเลือกซื้อน้ำหอมจะต้องเลือกซื้อที่เหมาะกับคุณผู้ชาย หรือหากหนุ่มๆคนไหนต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อยๆ และมีโอกาสที่เหงื่อจะออกมาก ก็ควรหลีกเลี่ยงกลิ่นหวานเลี่ยน เช่น กลิ่นมัสก์ กลิ่นวานิลลา เป็นต้น และหากใครที่กำลังเล็งน้ำหอมอยู่แต่ไม่รู้จะซื้อตัวไหนดี เราก็มีน้ำหอมดีๆมาแนะนำ จะมีกลิ่นไหนแบรนด์ไหนบ้าง ตามไปดูกันได้เลย

10. Bleu de Chanel Eau de parfum
น้ำหอม chanel ผู้ชาย กลิ่นหอมแบบผู้ดี หรูหรา สาวๆได้กลิ่นก็ต้องเหลียวมองกันเป็นแถว เป็นสุดยอด น้ำหอมหรูหรา ที่หนุ่มๆควรมีติดไว้สักขวด หลังฉีดแล้วจะให้ลุคที่ดูโดดเด่น มีความเป็นสุภาพบุรุษ สุขุมนุ่มลึกน่าค้นหา และกลิ่นนี้ยังเป็นกลิ่นท็อปๆของวงการน้ำหอมอีกด้วย กลิ่นกระจายตัวได้ดีสามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
การใช้งาน : เหมาะกับการใช้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ราคา : 5,900 บาท / 100ml.

9. Christian Dior Sauvage Eau de parfum
น้ำหอม dior ผู้ชาย เป็นน้ำหอมที่คุณหนุ่มๆหลายคนนิยมเลือกใช้ เป็นน้ำหอมดลิ่นสไตล์ Bad Boy หนุ่มเนื้อหอมที่มีเสน่ห์ มีความเซ็กซี่ยั่วยวน มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์มีความน่าค้นหาผสานความเผ็ดร้อนที่ลงตัว ด้วยกลิ่นของ Bergamot ผสานความหอมเข้ากับ Lavender ให้ความรู้สึกร้อนแรง หอมหวาน ไม่ว่าสาวๆคนไหนก็อยากเข้าใกล้คุณ กลิ่นติดทนม๊ากกก อยู่ได้ตั้งแต่เช้ายันเย็น
การใช้งาน : เหมาะกับการใช้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ราคา : 5,950 บาท / 100ml.

8. TOM FORD Oud Wood Eau De Parfum
น้ำหอม Tom Ford รุ่นนี้ โดดเด่นด้วย กลิ่นไม้ กฤษณาที่หายากและผสานเข้ากับกลิ่นไม้หอมสุดคลาสสิก ทั้งสองส่วนผสมนี้เรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของน้ำหอมยี่ห้อนี้เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของไม้จันทร์ Rosewood และกลิ่นของหญ้าแฝก กลิ่นธรรมชาติ ทำให้ผู้ที่ฉีดน้ำหอมขวดนี้มีความเย้ายวนในอีกมิติ เพิ่มความอบอุ่น และมีความหอมหวาน ให้ความหรูหราดูแพง แอบกระซิบว่าราคาแรงเอาเรื่อง แต่คุณภาพแพงตามราคาแน่นอน มีไว้สักขวดก็ดีไม่น้อย
การใช้งาน : เหมาะกับการใช้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ราคา : 16,241 บาท / 100ml.

7. YVES SAINT LAURENT Y Men EDP
น้ำหอม ysl ผู้ชาย เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นน่าค้นหา โดดเด่นด้วยกลิ่นหอมสดชื่น ยิปแซง เป็นน้ำหอมที่ผู้ชายหลายชื่นชอบและยกให้เป็นไอเท็มที่ต้องมี ด้วยความหอมระหว่างกลิ่นผลไม้อย่างมะกรูดฝรั่งและขิง ผสานเข้ากับกลิ่นเครื่องเทศและกลิ่นอโรมาต่างๆ ทำให้น้ำหอมตัวนี้มีกลิ่นที่เข้มข้น ลึกลับ ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกสดชื่นเหมือนได้อาบน้ำใหม่อยู่ตลอดเวลา เป็นการผสานกันที่ลงตัวแบบสุดๆ เป็น กลิ่นสะอาด มีความผู้ดี ฉีดแล้วสาวติดแน่นอน
การใช้งาน : เหมาะกับการใช้งานกลางวันและกลางคืน
ราคา : 5,950 บาท / 100ml.

6. Dolce & Gabbana The One Eau de parfum
น้ำหอมตัวนี้เป็นกลิ่นที่ช่วยสร้างความ เซ็กซี่ ให้ผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี น้ำหอมรุ่นนี้ได้กลิ่นมาจาก แอมเบอร์ เกรปฟรุต ใบกระเพรา พร้อมด้วยกลิ่นของยาสูบ มีหลายคนที่มีความลังเลว่ากลิ่นมันจะใช้ยากมั้ย เนื่องจากส่วนประกอบอาจดูไม่ค่อยเข้ากัน แต่บอกเลยว่ามันเป็นอะไรที่ลงตัวมากถึงแม้จะเป็นกลิ่นที่คนมองว่าใช้ยาก แต่หากได้ลองฉีดสักครั้งมันกลับสร้างเสน่ห์ให้ผู้ใช้ได้อย่างดีเยี่ยมเลยแหละ
การใช้งาน : เหมาะกับการใช้กลางคืน
ราคา : 5,700 บาท / 100ml.

5. ARMANI CODE EAU DE TOILETTE
น้ำหอมผู้ชาย 2024 ที่อยากแนะนำอีกตัว เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นเฉพาะเป็นเอกลักษณ์ เป็นกลิ่นที่ผสานระหว่างวู้ดดี้และแอมเบอร์ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นของส้มแมนดาริน และยังให้ความสดชื่นด้วยสารสกัดจาดมะกรูกอีกด้วย ทำให้ผู้ฉีดดูน่าดึงดูด บ่งบอกความเป็นสุภาพบุรุษที่น่าหลงใหล หอมหวนด้วยกลิ่นของลาเวนเดอร์ และยังได้กลิ่นที่รู้สึกผ่อนคลายจากไม้ซีดาร์
การใช้งาน : เหมาะกับการใช้กลางคืน
ราคา : 4,900 บาท / 75ml.

4. John Varvatos Artisan Pure
สำหรับ John Varvatos Artisan Pure เป็นน้ำหอมที่ให้กลิ่นอายของความเป็นเม็กซิโก เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นตระกูลส้ม และยังมี ส่วนผสม ของ เลมอน และ ขิง ให้กลิ่นความหอมที่สดชื่น โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ เป็นกลิ่นที่เมื่อฉีดแล้วเหมือนพกพาความสดชื่นไปด้วยทุกที่ แถมกลิ่นยังเป็นมิตรไม่ฉุนกำลังพอดี ถือเป็นน้ำหอมที่ควรมีสำคัญ ราคา ไม่แรง แต่คุณภาพคับขวด
การใช้งาน : เหมาะกับการใช้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ราคา : 3,350 บาท / 125ml.

3. Davidoff Cool Water Eau de toilette
สำหรับตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นน้ำหอม ยอดนิยม เลยก็ว่าได้ น้ําหอม ผู้ชาย 2023 เป็นหนึ่งในน้ำหอมที่ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ต้องมี สำหรับตัวนี้จะเป็นน้ำหอมแนวสดชื่น สปอร์ตๆ ประกอบไปด้วยกลิ่น Mint, มิดเดิลโน้ต Sandalwood, Jasmineไม้หอมตระกูลต่างๆ และอื่นๆอีกมากมาย หากใครที่เป็นมือใหม่หรืออยากซื้อน้ำหอมสักขวดแต่ไม่รู้จะเลือกตัวไหน เราขอแนะนำตัวนี้เลยใช้ได้ทุกโอกาส แถมกลิ่นยังติดหอมทนอีกด้วย
การใช้งาน : เหมาะกับการใช้กลางวัน
ราคา : 3,600 บาท / 125ml.

2. Ralph Lauren Polo Black EDT
น้ำหอมที่เหมาะสำหรับหนุ่มๆมากๆ กลิ่นหอมเย็น มีความนุ่มนวล ให้ความรู้สึกอยากอยู่ใกล้ตลอดเวลา ให้ความรู้สึกสดชื่นไม่น่าเบื่อ กลิ่นติดทนมาก หอมติดกายหลายชั่วโมงเลยทีเดียว กลิ่นไม่ฉุนฉีดได้หลายโอกาส เป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของน้ำหอมตัวนี้เลย
การใช้งาน : เหมาะกับการใช้กลางวัน
ราคา : 4,300 บาท / ขนาด 125ml.

1. Dior Homme Sport
น้ำหอมดิออร์ผู้ชาย สำหรับตัวนี้มี กลิ่นน้ำหอม ที่ดูมีความเป็นผู้ใหญ่หรือวัยกำลังโต ให้ความสง่างาม มีความเซ็กซี่ ให้ความสดชื่นแต่ไม่ได้สดใสจนเกินไป เป็นน้ำหอมที่ให้กลิ่นอายความเป็นทางการอยู่สักหน่อย ช่วยสร้างความน่ายำเกรงให้ผู้ฉีด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจะใช้กลิ่นนี้เป็นกลิ่นเฉพาะตัว และยังใช้ได้หลากหลายช่วงวัย กลิ่นนี้แม้แต่ แจ็คสัน หวัง ยังใช้นะบอกเลย
การใช้งาน : เหมาะกับการใช้ทั้งกลางวันและกลางคืน
ราคา : 5,650 บาท / 125ml.

เป็นอย่างไรกันบ้างกับน้ำหอมผู้ชายที่เรานำมาแนะนำทั้ง 10 แบรนด์นี้ น้ำหอมแต่ละตัวถือได้ว่ามีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับคุณผู้ชายทั้งหลายอย่างแน่นอน สามารถใช้ฉีดได้หลากหลายโอกาส ทั้งไป ทำงาน เรียน เที่ยว หรือแม้แต่การออกเดตกับสาว บอกเลยว่าหากได้ฉีดน้ำหอมเหล่านี้ สาวๆมองจนเหลียวหลังแน่นอน
เกร็ดความรู้เล็กๆ ระดับความเข้มข้นของน้ำหอมมีกี่ระดับ
น้ำหอมก็มีการแบ่งระดับความเข้มข้นด้วยนะ ซึ่งส่วนใหญ่เรามักจะรู้กันอยู่แล้วว่าน้ำหอมนั้นมีหลากหลายกลิ่น แต่เพื่อนๆรู้หรือไม่ว่าน้ำหอมยังแบ่งระดับความเข้มข้นด้วย โดยการแบ่งระดับนี้สามารถแบ่งความเข้มข้นของน้ำหอมออกมาได้ 5 ระดับ ดังนี้
- Eau Fraiche (EF) : คือระดับความเข้มข้น 1-3% เป็นระดับน้ำหอมที่เจือจางมากที่สุด โดยความหอมในระดับนี้จะมีกลิ่นไม่ค่อยติดทนเท่าไร กลิ่นจะติดแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ความเข้มข้นในระดับนี้จีงไม่เป็นที่นิยมของผู้ใช้มากเท่าไหร่
- Eau de Cologne (EDC) : คือระดับความเข้มข้น 2-4% ระดับความเข้มข้นนี้เป็นที่นิยมของผู้ชายหลายๆคน โดยเลือกใช้ความเข้มข้นระดับนี้มากทีเดียว เพราะมีกบิ่นที่ไม่ฉุนจนเกินไป ทำให้น้ำหอมและ กลิ่นกาย ไม่ตีกัน เหมาะกับการฉีดระหว่างวัน ให้กลิ่นติดทนราว 2-3 ชั่วโมง
- Eau de Toilette (EDT) : คือระดับความเข้มข้น 5-15% ความเข้มข้นระดับนี้ถือได้ว่านิยมทั้งผู้หญิงและผู้ชายเลยแหละ โดยความเข้มข้นระดับนี้จะสามารถติดทนได้ราวๆ 3-4 ชั่วโมง
- Eau de Parfum (EDP) : คือระดับความเข้มข้น 5-20% ความเข้มข้นี้เป็นระดับความหอมที่นิยมใช้กันมากที่สุด และถือเป็นระดับความหอมที่ขายดีมากที่สุด เพราะกลิ่นติดทนนานมากขึ้นราวๆ 5-8 ชั่วโมงซึ่งเป็นเวลาที่กำลังพอเหมาะพอดี
- Parfum หรือ Perfume : คือระดับความเข้มข้น 20-40% น้ำหอมระดับความเข้มข้นนี้ เป็นระดับที่ความหอมติดทนยาวนานมากที่สุดถึง 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยความหอมระดับนี้มีราคาที่ค่อนข้างสูง เป็นหัวน้ำหอมดีๆนี่เอง
one2fives เป็นเว็บไซต์ศูนย์ รวมจัดอันดับ ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องมาไว้เพื่อคุณ
FIVE IS REAL เว็บไซต์คุณภาพที่จะรวบรวมเทรนด์ฮิตติดชาร์จทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสมาให้คุณได้ติดตาม