สุนัข สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มนุษย์ไว้ใจนำมาเลี้ยงมากกว่าสัตว์สายพันธุ์อื่น ๆ ตั้งแต่นำมาเป็นหมาล่าเนื้อ ต้อนแกะเข้าคอก และในที่สุดก็ได้รับความไว้วางใจจากสังคมมนุษย์ โดยการนำมาเลี้ยงใกล้ชิดเป็นเพื่อนเล่น และเลี้ยงเหมือนสมาชิกในครอบครัว เป็นเครื่องมือไว้คอยเข้าสังคม จูงนำทาง ตลอดจนถึงฝึกฝนไว้เฝ้าบ้าน ป้องกันขโมยก็มี แต่ลักษณะนิสัยน้องหมามักสื่อให้เห็นนิสัยของผู้เลี้ยงเช่นกัน
สุนัขมีนิสัยแบบใด ผู้เลี้ยงย่อมนิสัยแบบนั้น
การตั้งข้อสังเกตนิสัยของน้องหมา หรือสุนัข นิสัยเป็นแบบใด ผู้เลี้ยงย่อมเป็นแบบนั้น มักมีให้เห็นเสมอ บ่อยครั้งที่เราเห็นสุนัขสายพันธุ์ดุ มักจะกัดเจ้าของ เราอาจตีความได้ว่าอาจเกิดจากความเครียดของสัตว์เลี้ยง หรือบ่อยครั้งที่สุนัขบางสายพันธุ์จับขโมยให้เจ้าของได้ เกิดจากเจ้าของฝึกจนเป็นนิสัยด้วยการสอนให้สังเกต และรับรู้ถึงกลิ่นแปลกปลอมที่ไม่ได้เป็นของคนในบ้าน ข้อสงสัยนี้อาจจะไม่จริงไปเสียทีเดียว เพราะบางครั้งก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม การเลี้ยงดูตั้งแต่เล็ก รวมถึงสายพันธุ์ของสุนัขนั้น ๆ ด้วย
สายพันธุ์คือ DNA แฝงนิสัยในตัวสัตว์เลี้ยงแต่ละตัว
สุนัขสายพันธุ์ต่าง ๆ มีลักษณะนิสัยต่างกัน เพราะลักษณะทางพันธุกรรมมักส่งผลต่อพฤติกรรม เช่น สุนัขพันธุ์เล็กก็อาจจะดุได้เหมือนพันธุ์ใหญ่ แต่ความน่ากลัวนั้นต่างกัน หรือสุนัขพันธุ์ขนยาวชอบเล่นน้ำ เพราะต้องการลดอุณหภูมิในร่างกายที่สูง รวมถึงบางสายพันธุ์ชอบข่วนเฟอร์นิเจอร์ เพราะเป็นสายพันธุ์ที่ถูกเลี้ยงมาให้ใช้แรง เช่น การลากเลื่อน แต่เมื่อถูกนำมาเลี้ยงในบ้านเกิดความเครียดสะสม เลยต้องแสดงออกในลักษณะนั้น ดังนั้น การทำความเข้าใจ และรู้จักสายพันธุ์สุนัขก่อนเลี้ยง จึงเป็นสิ่งที่ควรศึกษาก่อนตัดสินใจ
5 อันดับ สายพันธุ์สุดฮิต ที่คนนิยมเลี้ยงในปัจจุบันมีดังนี้
1. ลาบราดอร์ริทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever)
สุนัขพันธุ์ที่ฉลาด และเป็นมิตรกับมนุษย์มากที่สุด จัดเป็นสุนัขรูปร่างใหญ่ ร่างกายแข็งแรงมีขาที่มั่นคง ร่างกายกำยำ มีสีเดียวทั้งตัว ถูกพัฒนาสายพันธุ์มาจากสุนัขล่าเนื้อ มีความสามารถด้านการดมกลิ่นที่ดีเยี่ยม อดทน และเป็นมิตร เลี้ยงรวมกับสัตว์อื่นได้ สุนัขพันธุ์นี้มักอ้วนง่าย และมักมีปัญหากับกระดูก และข้อ เจ้าของจึงควรเลี้ยงในที่เปิดโล่ง และมีที่ว่างให้วิ่งเล่นพอประมาณ
2. โกลเด้น รีทริฟเวอร์ (Golden Retriever)
เป็นอีกสายพันธุ์ที่เป็นมิตรทั้งกับมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ มีขนยาวปกคลุมทั่วทั้งตัว จึงมักมีปัญหาเมื่ออยู่ในภาวะอากาศร้อน สุนัขพันธุ์นี้จึงชอบเล่นน้ำ แต่ในขณะเดียวกันก็เสี่ยงกับการเป็นโรคผิวหนังง่าย และเป็นสุนัขสายพันธุ์ใหญ่จึงต้องระมัดระวังเรื่องกระดูก และข้อต่อ ลักษณะนิสัย คือ เป็นมิตรกับเจ้าของ และมีความสามารถในการรอ แต่ก็มีความขี้น้อยใจส่วนหนึ่ง ส่วนลักษณะภายนอกจะแตกต่างกันตามสายพันธุ์
3. ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky)
เป็นสุนัขที่มีความสง่างาม หูตั้ง รูปร่างใหญ่ แต่กระฉับกระเฉง และนิ่งดุจนางพญา เป็นมิตร ฉลาด รักอิสระ และเจ้าเล่ห์ภายในเวลาเดียวกัน แต่ด้วยต้นกำเนิดมาจากตะวันออกของไซบีเรีย ซึ่งอากาศหนาวเป็นหลัก การเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้ จึงควรมีพื้นที่ที่มีความเย็น เพื่อระบายความร้อนด้วย ส่วนโรคที่พบบ่อย คือ โรคตา เช่น ต้อกระจก ประสาทตาอักเสบ กระจกตาเสื่อม หรือไฮโปไทรอยด์ และภูมิแพ้สำหรับสุนัขอายุมาก เจ้าของจึงควรทราบไว้
4. บีเกิล (Beagle)
สุนัขสายพันธุ์เล็ก แต่พลังเยอะจนน่าตกใจ เป็นสายพันธุ์ที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง และเด็ก นิสัยซุกซน มีจมูกรับรู้กลิ่นไว หากถูกเจ้าของปล่อยให้อยู่ลำพังจะเห่า หอน เพื่อปลดปล่อยความเครียด บ่อยครั้งที่บีเกิ้ลตัวเปี๊ยกเห่าสิ่งแปลกปลอม จนกว่าเจ้าของจะเดินไปดู ตัวเล็ก แต่แข็งแรง หูมีความยาว และห้อย มีหางยาวปานกลางตั้งสูง มีขนเรียบหนาแน่น โดยมักจะเป็นสีดำ สีน้ำตาล และสีขาวภายในตัวเดียวกัน
5. ปั๊ก (PUG)
สุนัขที่มีต้นกำเนิดสายพันธุ์มาจากประเทศจีน เป็นสุนัขในกลุ่มพันธุ์เล็ก ตัวเล็ก แต่แข็งแรง มีขาที่ใหญ่ผิวหนังย่น ดวงตากลมปูด จึงต้องดูแลตาให้ดี เพราะได้รับการบาดเจ็บง่าย ไม่ชอบเข้าสังคม แต่ก็เป็นมิตรกับสายพันธุ์อื่น ๆ รวมถึงเจ้าของ และเด็กด้วย เหมาะสำหรับเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน และเป็นเพื่อนคลายเหงา
