เดือน: มกราคม 2022

เกมมือถือ ในยุคสมัยนี้เป็นเกมที่กำลังมาแรงมาก ๆในช่วงนี้ เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด 19 ทำให้มีผู้คนมากมายต้องทำงานออนไลน์และเรียนออนไลน์ อยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหนพอว่างก็ออกไปไหนไม่ได้ ทำให้ผู้คนเหล่านี้หาเกมมาเล่นกันอย่างมากมาย ซึ่งเกมในสมัยนี้ก็มีเยอะแยะและหลากหลายมาก ๆสามารถเล่นได้ทั้งในโทรศัพท์หรือในคอมก็ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วคนจะเล่นในโทรศัพท์กันเยอะ เนื่องจากสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบาย ไม่หนักกระเป๋าอีกด้วย ทำให้มีผู้คนเล่นกันอย่างมหาศาลเลยทีเดียว 

เกมมือถือ คืออะไร

เกมมือถือ เป็นการเล่นในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเกมเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่มอบความบันเทิงและความสนุกสนานให้เด็ก ๆและผู้ใหญ่ แถมยังมีประโยชน์อีกด้วย มีกฎกติกาต่าง ๆสำหรับการแข่งขันหรือพัฒนาทักษะด้านร่างกายการใช้พละกำลัง หรือความคิดที่จะเอาชนะ ซึ่งเมื่อก่อนจะเป็นการ เล่นเกม แบบการละเล่นแบบไทย เช่น หมากรุก หมากล้อม และ ชักเย่อ ที่ในปัจจุบันยังเป็น เกมยอดนิยม อยู่ในปัจจุบันนี้อีกด้วย และในตอนนี้ก็ยังเกิดการนำไปแข่งขันชิงรางวัลทั้งแบบเดี่ยวหรือแบบทีม และยังมีเกมที่กำลังพัฒนาอยู่ในยุคปัจจุบันอีกด้วย

ประเภทของ เกมมือถือ รู้ไว้ไม่เสียหาย

เชื่อว่าหลาย ๆคนที่ เล่นเกมมือถือ อาจจะยังไม่ค่อยรู้ว่าเกมนั้นมีกี่ประเภทกันแน่ โดยส่วนใหญ่นั้น เด็ก ๆวัยรุ่นจะชอบเล่นแนวการต่อสู้เพราะเป็น เกมสนุก ๆ และให้ความบันเทิงเป็นอย่างมาก แต่ประเภทของเกมนั้นมีหลายแนวเลย เราจะยกมาถึง 8 ประเภท ไม่ว่าจะเป็น การต่อสู้ , เกมสวมบทบาท , เกมผจญภัย , เกมยิงปืน , เกมกีฬา , เกมวางแผน , เกมปริศนา และเกมจำลองสถานการณ์ จะเห็นได้ว่าเกมบางประเภทมีประโยชน์ต่อเราเหมือนกัน เพิ่มทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ ฝึกสมอง และยังฝึกทางด้านการวางแผน และแต่ละประเภทให้ความสนุกสนานที่แตกต่างกัน

5  อันดับ เกมมือถือยอดนิยมที่มีผู้เล่นมากมาย 

ช่วงยุคสมัยนี้ เกมออนไลน์ เป็นประเภทที่กำลังเป็นที่นิยมมาก ๆ เนื่องจากในยุคสมัยใหม่แบบนี้ทำให้มีเด็กรุ่นใหม่ได้ทำการเปิดบริษัทเกมและได้ทำการผลิตแนวเกมต่าง ๆออกมาเป็นจำนวนมากให้ทุกคนได้ลองเล่นกันและแต่ละเกมก็ให้ความสนุกที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งความชอบของการเล่นเกมแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ทำให้ค่ายเกมต้องออกเกมที่เด็กวัยรุ่นชอบออกมาซึ่งทำให้แต่ละค่ายเกมต้องแข่งขันสูง ซึ่งในวันนี้เราได้รวบรวม เกมมือถือ ที่กำลังเป็นที่สนใจ และเป็น เกมน่าเล่น อยู่ในช่วงนี้มามอบให้กับทุกคน 

1.  FREE FIRE

เป็น เกมมือถือ ที่ฮิตมากที่สุดในวงการนี้เลยก็ว่าได้ เกมฟีฟาย เป็นเกมแอคชั่น เอาตัวรอดบนมือถือสุดฮิตที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอย่างแน่นอน โดยเกมนี้การดาวน์โหลดสูงมากหากเทียบกับเกมอื่น ซึ่งยกอันดับ 1 ให้กับเกมนี้เลย และเกมนี้มีการเริ่มด้วยการโดดลงจากเครื่องบินด้วยร่มชูชีพ และลงสู่สนามพร้อมกับผู้เล่นคนอื่น ๆมีอาวุธมากมายยิ่งใครมีอาวุธที่ดีก็ได้เปรียบในสงครามครั้งนี้ โดยเกมนี้จะชนะได้ต้องสังหารผู้เล่นคนอื่น ๆให้ได้จนตัวเองเป็นผู้รอดชีวิตเป็นคนสุดท้าย 

2.  GARENA ROV

เกม ROV ที่มีการเล่นที่คล้ายกับเกมแนว MOBA ที่เหล่าเกมเมอร์รู้จักกันดีและนิยมเล่นกัน โดยเกมนี้จะมีการเล่นแต่ละตาอยู่ที่ 10 – 15 นาที แบ่งเป็น 2 ทีม ทีมละ 5 คน โดยภาพโดยรวมนั้นทีมไหนที่สามารถทำลายฐานของฝั่งตรงข้ามได้ก็จะเป็นผู้ชนะ เล่นได้ง่าย ไม่ซับซ้อน สามารถพูดคุยสื่อสารผ่านภายในทีมได้ เกมนี้มีความสนุกสนาน แถมยังสามารถเล่นได้ทั้งในโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ก็ได้ ANDROID หรือ IPHONE ก็สามารถเล่นได้หมดเลย 

3.  PIKMIN BLOOM

เป็น เกมมือถือ ที่เกี่ยวกับการผจญภัยบนโลกแห่งความเป็นจริงพร้อมกับ PIKMIN สุดน่ารัก เพื่อค้นหาเหล่า PIKMIN ตัวน้อยที่แอบซ่อนอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆโดยตัวละครก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป โดยระหว่างที่เดินไปเหล่าต้นไม้ของเราก็จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้เรายังสามารถรวบรวมกลีบดอกไม้จากหัวของ PIKMIN เพื่อเปิดทางและลุ้นรับของรางวัลได้อีกด้วย ซึ่งเกมนี้เป็น เกมใหม่ ที่เพิ่งทำการเปิดตัวออกไปได้ไม่นานก็มีคนจับตามองเกมนี้กันอย่างมากมายเลยทีเดียว

4.  GENSHIN IMPACT

เกมนี้เหมาะโหลด เกมเล่นกับเพื่อน โดยเกมนี้เป็นเกมแนวต่อสู้และกำลังฮิตอยู่ในช่วงนี้ เนื่องจากมีภาพและกราฟิกที่สวยงาม สมจริง เป็นอย่างมาก เป็นเกมต่อสู้ที่ใช้ความละเอียดค่อนข้างสูง การเคลื่อนไหวของตัวละครก็มีความสวยงาม และมีการเซตสภาพแวดล้อมเหมือนจริงมาก แต่ความสนุกของเกมนั้นอยู่ตรงนี้ อยู่ที่การอัปเกรดสกิลการโจมตีและพลังธาตุต่าง ๆ แถมยังมีอาวุธและไอเท็มอื่น ๆอีก ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเล่นกันตลอด

5.  COOKIE RUN

มาถึงเกมสุดท้ายนั้นก็คือเกมคุกกี้รันนั้นเอง ซึ่งเป็นเกมที่คนไทยต้องคุ้นเคย โดยมีหลายเวอร์ชั่นมาก ๆ และเกมนี้เป็นเกมแนวผจญภัยของคุกกี้ในในอาณาจักรขนมหวาน ซึ่งมีตัวละครน่ารัก ๆและเล่นแล้วยังให้ความเพลิดเพลินอีกด้วย โดยเกมนี้จะมีการสร้างปราสาท สร้างหมู่บ้านและพัฒนาสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆหรือบางครั้งก็มีการต่อสู้เพื่อปกป้องเมืองอีกด้วย และการเล่นนั้นยังสามารถปลดล็อคไอเท็มต่าง ๆ ได้อีกด้วย ทำให้มีผู้คน ดาวน์โหลดเกม นี้มาเล่นกันอย่างมากมาย

บทสรุป 

ผู้ใหญ่หลาย ๆคนไม่เข้าใจว่าทำไมเด็ก ๆต้องติด เกมมือถือ อะไรขนาดนั้นแล้วจะมองว่าการติดเกมนั้นไร้สาระ มีแต่ข้อเสียไม่มีข้อดีอะไรเลย แต่รู้ไหมว่าข้อดีนั้นมีมากมายเลย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเพื่อช่วยให้ผ่อนคลายจากการเรียนหนังสือหรือจากการทำงาน หรือจะช่วยสานสัมพันธ์ของคนในครอบครัวหรือผองเพื่อนให้แน่นแฟ้น มากขึ้น แถมยังสามารถนำมาสร้างรายได้ ได้อีกด้วยในสำหรับผู้เล่นในการแข่งขัน ESPORTS ซึ่งนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของกีฬาที่เกี่ยวกับเกมที่คนทั่วโลกให้การยอมรับกันมากขึ้นอีกด้วย และเกมในปัจจุบันนี้ก็สามารถโหลดมาเล่นได้ไม่เสียตัง เพราะเดี๋ยวนี้ เกมฟรี มีเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆให้ผู้คนได้เล่นกัน

บอกลาการทารองพื้นหนาเตอะ ต่อด้วยโบกแป้งเน้น ๆ เพื่อให้ใบหน้าดูขาวใสขาว เพราะนี่คือยุคแห่งการโชว์งานผิวที่แท้จริง ไม่เน้นแป้ง แต่เน้นความเรียบเนียนของใบหน้า อวดผิวสวยใส ไม่หมองคล้ำ เป็นความใฝ่ฝันของหนุ่มสาวหลายคนเลยก็ว่าได้ แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลลัพธ์จากการหมั่นดูแลและบำรุงผิวหน้าอยู่เสมอ “ครีมหน้าขาวใส” เป็นอีกหนึ่งไอเทมกู้ผิว ช่วยเติมความสดใสให้กับใบหน้า นอกจากจะทำให้เราได้ผิวกระจ่างใส มีออร่า ชวนให้คนมองหลงใหลแล้ว ยังแสดงออกถึงการมีสุขภาพที่ดีและความรักที่มีให้กับตัวเราเองด้วย

ผิวหมองคล้ำเกิดจากอะไร? 

ในบางช่วงเวลาหลายคนประสบกับปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส ดูโทรมไปหมด อาจเกิดจากอายีที่เพิ่มขึ้น หรือตัวการใหญ่อย่างแสงแดด มลภาวะ ฝุ่นควัน ผิวแพ้เครื่องสำอาง แพ้อาหาร นอนดึกบวกกับความเครียดในบางครั้งก็ส่งผลให้ผิวอ่อนแอลงได้เช่นกัน ดังนั้นเราควรป้องกันและแก้ไขปัญหาเหล่านี้เรากลับมามีหน้าขาวใส ด้วยการรับประทานผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีสูงให้มากขึ้น ที่สำคัญคือการใช้ SKINCARE จำพวกครีมกันแดดและครีมหน้าขาวใสเพื่อบำรุงผิวหน้า ช่วยให้แก้ปัญหาได้ตรงจุด แล้วก็อย่าลืมหาเวลาพักผ่อนกันด้วย

ครีมหน้าขาวใส คืออะไร?

ครีมหน้าขาวใส เป็นหนึ่งให้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์บำรุงผิวหน้า ที่มีส่วนผสมประเภทไวท์เทนนิ่ง จำพวกวิตามินซี วิตามินบี 3 หรือ Niacinamide เป็นหลัก ส่วนใหญ่จะเติมสารสกัดที่ได้จากธรรมชาติลงไปด้วย ซึ่งครีมหน้าขาวใสเหล่านี้ มีหน้าที่ช่วยปรับสีผิวให้มีความขาวกระจ่างใสมากขึ้น ด้วยการเข้าไปยับยั้งและลดการสร้างเม็ดสีใต้ผิวหนัง อาจมีคุณสมบัติช่วยลดรอยดำและรอยแดงที่เกิดจากสิว บางสูตรเร่งให้เกิดการผลัดเซลล์ผิว และบางสูตรมีความสามารถในการช่วยแก้ปัญหาสีผิวที่เปลี่ยนไปตามอายุและฮอร์โมน จุดด่างดำ ฝ้า กระ ดูจางได้

5 อันดับ ครีมหน้าขาวใส บอกลาความหมองคล้ำ ยิ้มรับความกระจ่างใส

เทรนด์ผิวในปัจจุบันนี้เน้นให้หนุ่มสาวมีผิวหน้าขาวใสอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่งมากนัก เพราะสังคมยุคนี้มักสอนให้คนรักและหันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น ทำให้หลายคนกลับมาใส่ใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง การดูแลผิวด้วยครีมหน้าขาวใสจึงกลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง แต่ครีมบำรุงเหล่านี้นั้นมีมากมายหลายยี่ห้อขายอยู่ในตลาด จนเลือกกันไม่ถูกเลย วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 อันดับครีมหน้าใส ช่วยกู้ผิวหน้า บอกลาความหมองคล้ำ บำรุงให้เกิดความกระจ่างใส ช็อปสบาย ๆ ในราคาเอื้อมถึง จะมีครีมหน้าขาวแบรนด์ใดกันบ้าง ตามไปดูกันเลยจ้า

1.  SKINRx LAB MadeCera Re-turn Cream

เริ่มจากครีมยอดนิยมหลอดสีชมพูตัวดังจากดินแดนโสมขาวที่กำลังเป็นกระแสยอดฮิตในไทย ด้วยสารสกัดเข้มข้นจากใบบัวบก ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในการเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยทำให้แผลสิวสมานตัวไวขึ้น เติมร่องลึกของริ้วรอยให้ตื้นขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญยังช่วยลดเลือดรอยดำรอยแดงที่เกิดจากสิวได้เป็นอย่างที่ เติมความกระจ่างใส ทำให้ผิวแข็งแรงอ่อนวัยภายในหลอดเดียว มีให้เลือกถึง 2 ขนาดทั้ง 15 มิลลิลิตร ราคา 172 บาท และ 50 มิลลิลิตร ราคา 385 บาท คุณภาพแน่นแสนถูก

2.  Smooth E White Babyface Cream

อันดับต่อมาคงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากแบรนด์ระดับตำนานอย่าง “Smooth E” ครีมหน้าขาวใสที่ครองใจคนมาเนิ่นนานหลายยุคหลายสมัย ภายในหลอดอุดมไปด้วยวิตามินอี ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้นมากขึ้น บวกกันวิตามินซี ที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาความหมองคล้ำ ฝ้า กระ จุดด่าดำฝังลึกให้จางลง นอกจากนี้ยังมีวิตามินเอ ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการเสื่อมสภาพพร้อมกับชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย จำหน่ายขนาด 12 กรัม ในราคา 98 บาท และขนาด 30 กรัม ราคา 215 บาท

3.  Hada Labo Shirojyun Premium Deep Whitening Cream

ตามมาด้วยครีมบำรุงผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใสจากแบรนด์ดังระดับพรีเมียมของญี่ปุ่น หรูหราตั้งแต่แพคเกจ บรรจุครีมเนื้อเข้มข้นแต่ให้สัมผัสบางเบา ไปจนถึงคุณภาพคับกระปุก จากส่วนผสมที่มีคุณสมบัติหลากหลายครอบคลุมการดูแลทุกปัญหาผิว ช่วยลดความหมองคล้ำ เติมความกระจ่างใส ช่วยให้ผิวแข็งแรง เนียนใส และสม่ำเสมอด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกให้กับผิวอีกด้วย มาในรูปแบบกระปุกสีน้ำเงิน 50 กรัม ราคาสุดคุ้ม เพียง 559 บาทเท่านั้น

4.  The Ordinary Vitamin C Suspension 30% in Silicone

อีกหนึ่งครีมทาหน้าแบรนด์ดังส่งตรงจากอังกฤษ ถูกใจเหล่าหนุ่มสาวสายสุขภาพอย่างแน่นอน ด้วยส่วนผสมจาก Vegan ที่ไม่มีสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผิว ทำให้เราสามารถเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบรนด์ได้เลย โดยครีมหลอดนี้ผลิตออกมาในรูปแบบเซรั่มที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ เติมความกระจ่างใสให้กับใบหน้า และช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของผิว ที่ส่งผลให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้อีกด้วย วางจำหน่ายในราคา 350 บาท กับขนาด 30 มิลลิลิตร

5.  Smooto Tomato Collagen White Serum

ลำดับสุดท้ายเราจะพามาแวะชมครีมเซเว่นแบบซอง เจ้าเซรั่มมะเขือเทศตัวดังที่กำลังเป็นที่นิยมกันบ้าง โดยหน้าซองเขามีเคลมไว้ด้วยว่าเซรั่ม 1 ซองนี้เทียบเท่ากับสารสกัดที่ได้จากมะเขือเทศ 10 ลูกเลยทีเดียว นั่นก็แปลว่าในซองเซรั่มนี้ต้องอุดมไปด้วยไลโคปีนองค์ประกอบหลักในผลมะเขือเทศอย่างแน่นอน ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้การฟื้นฟูผิวให้ดูกระจ่างใส แก้มอมชมพู แถมมีออร่าอีกด้วย จัดเป็นครีมราคาถูกไซส์มินิที่ครบเครื่อง สะดวกกับการพกพา ซื้อได้ในราคาเพียง 39 บาท ขนาด 10 กรัม

บทสรุป 

การจะเลือกซื้อสกินแคร์ซักอย่างนั้น เรื่องหลัก ๆ ที่ต้องดูคงเป็นสภาพผิวของผู้ใช้เป็นตัวตั้ง เพราะการเลือกครีมบำรุงผิวหน้านั้น ต้องเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะผิวหน้าของเราถึงจะเห็นผลดีที่สุด โดยเฉพาะครีมหน้าขาวใสจำเป็นต้องเพิ่มความระมัดระวังครีมที่มีสรรพคุณเร่งผิวขาวใสภายใน 3 วัน 7 วัน ซึ่งในความจริงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่หากสามารถทำได้จริง ครีมตัวนั้นจะต้องมีสารอันตรายที่ไม่เป็นผลดีกับผิวอย่างแน่นอน ดังนั้นควรเลือกซื้อครีมที่น่าเชื่อถือ มีความปลอดภัย ถึงแม้จะเห็นผลในระยะยาว แต่ยั่งยืนกว่าจะดีมากกว่า

รองเท้าผ้าใบผู้หญิง เป็นอีกหนึ่งไอเทมเด็ดเสริมเสน่ห์ เคล็ดลับความสวยของสาว ๆ ที่ได้รับความนิยมเรื่อยมา เพราะความสวยของผู้หญิงนั้นไม่ได้อยู่ที่การหยิบรองเท้าส้นสูงและคัชชูออกมาใส่ในทุก ๆ วัน แต่กลับอยู่การที่เธอได้สนุกไปกับการปรับเปลี่ยนลุคไปตามความชอบอย่างท้าทาย นอกจากเสื้อผ้าหลากสไตล์ เครื่องประดับหรูหรา กระเป๋าใบโปรด หรือจะเป็นเครื่องสำอางเติมความมั่นใจ ก็เห็นจะมีแต่รองเท้าผ้าใบผู้หญิงนี่แหละที่รับบทเพื่อนคู่ใจของใครหลายคน สำหรับบางคนก็ชื่นชอบจนถึงขนาดจัดให้อยู่ในกรุของสะสมสุดรักเลยก็ว่าได้

Mix and Match รองเท้าผ้าใบผู้หญิงกับเสื้อผ้าลุคไหนถึงจะปัง

ในยุคที่สังคมเปิดกว้างมากขึ้น ทุกคนสามารถเป็นตัวเองได้มากที่สุด รองเท้าผ้าใบผู้หญิงจึงกลายเป็นไอเทมคู่ใจของสาว ๆ ที่ไม่จำกัดอยู่แค่เพียงรองเท้าแฟชั่นของคุณผู้ชายอีกต่อไป เพราะในความจริงแล้วรองเท้าผ้าใบก็สามารถนำมา Mix and Match กับเสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ตามเทรนด์แฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นเดรสตัวโปรดก็จะเสริมให้ลุคสาวหวานดูเท่ขึ้นมาเล็กน้อย หรือจะใส่คู่กับกางเกงยีนส์ แล้วเลือกท่อนบนเป็นเสื้อสไตล์เรา ไม่ว่าลุคไหนก็ดูดีไปหมด ถือว่ารองเท้าผ้าใบก็สมารถเพิ่มมิติในการแต่งตัวให้กับเหล่าสาวสวยได้อย่างลงตัวเช่นกัน

วิธีการเลือกรองเท้าผ้าใบผู้หญิงให้เหมาะกับผู้สวมใส่มากที่สุด

แน่นอนว่าการจะใส่รองเท้าผ้าใบให้ดูดีนั้น ขั้นแรกเราต้องเลือกรองเท้าที่เหมาะกับตัวเรามากที่สุดกันก่อน โดยจะต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ นอกจากความสวยงามของรองเท้าด้วย เริ่มจากการดูโอกาสการใช้งาน เลือกแบบที่ใส่สบาย ไม่ทำให้ปวดเท้า ไม่หนักจนเกินไป ที่สำคัญต้องเลือกให้เหมาะกับส่วนสูงของผู้สวมใส่ด้วย หรือใครเลือกไม่ถูก ให้ลองมองหารองเท้าผ้าใบสวย ๆ จากแบรนด์ดังมาเป็นตัวเลือกก็จัดว่าดีไม่น้อย เพราะแบรนด์ที่มีชื่อเสียงได้นั้น ย่อมได้รับการยอมรับในดีไซน์ รูปแบบ น้ำหนัก รูปร่างที่รับกับรูปเท้าได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

5 อันดับ รองเท้าผ้าใบผู้หญิงสุดฮิต ที่สาว ๆ ต้องรีบไปตำ ใส่แล้วเท่มีเสน่ห์ชวนมอง

รองเท้าผ้าใบผู้หญิงนั้นมีให้เลือกกันมากมาย หลากสไตล์ หลายรูปแบบ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน จนในบางครั้ง หลายคนมักประสบปัญหาจะเลือกซื้อแบบไหนดี คู่นั้นก็เริ่ด คู่นี้ก็ปังไม่ไหว นอกจากจะเลือกที่ถูกใจแล้วนั้น อย่าลืมคำนึงถึงหลักการเลือกรองเท้าผ้าใบที่เราได้บอกไปในขั้นต้นด้วยนะ วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 อันดับรองเท้าสุดฮิตหาซื้อง่ายที่สาว ๆ ต้องรีบไปตำ ใส่แล้วเท่มีเสน่ห์ชวนมอง ดีไซน์สวย เหมาะกับการสวมใส่ในทุกโอกาส แล้วจะพลาดได้ไง ตามไปดูกันเลย

1.  Nike – Air Force 1 Low

เป็นอีกหนึ่งในรุ่นยอดนิยมของขบวนรองเท้า NIKE ซึ่งในความจริงแล้วถูกผลิตขึ้นเพื่อใช้สำหรับการสวมใส่เพื่อเล่นกีฬาบาสเกตบอล เลยมีดีไซน์ที่ค่อนข้างจะใหญ่เกินตัวสาว ๆ ไปหน่อย แต่ก็ยังได้รับความนิยมในหมูสาวสวย จะแมชท์กับชุดไหนก็รับรองว่าใส่ออกมาแล้วดูเท่กันอย่างแน่นอน ซึ่งราคาของรองเท้าผ้าใบรุ่นนี้จะอยู่ที่ประมาณ 3,600 บาทขึ้นไป

2.  Adidas – Stan Smith S75187

รองเท้าผ้าใบหนังอีกรุ่นที่ครองใจคุณผู้หญิงทั้งหลายจากแบรนด์ดัง รองเท้า ADIDAS รุ่นนี้ถูกออกแบบมาให้ดูเรียบง่าย ดูคลาสสิก แตกต่างจากรุ่นดั้งเดิมเล็กน้อย โดยรุ่นนี้มีความพิเศษตรงที่ใช้ตีนตุ๊กแกแทนการผูกเชือก สวมใส่ได้ง่ายและสบายมากขึ้น สามารถเข้ากับเสื้อผ้าได้เกือบทุกแบบ เหมาะกับทุกโอกาส เรียกว่ามีเพียงหนึ่งคู่ก็คุ้มแล้วน้า ราคาอยู่ที่ประมาณ 3,200 บาทเท่านั้น

3.  KEDS – Champion Core Cvo

รองเท้าผ้าใบสีขาวรุ่นขายดีของแบรนด์ KEDS ด้วยคุณสมบัติในการระบายอากาศได้ดี ช่วยลดกลิ่นอับชื้น ทำให้เกิดแบคทีเรียได้ยาก หน้ากว้าง ไม่คับ และไม่กดปลายเล็บ สวมใส่สบาย มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูคลาสสิค เรียบง่ายแต่สวยงาม แอบมีมุมแสนน่ารัก เหมาะกับการใส่ไปเที่ยวในวันสบาย ๆ กับลุคโปรดของเรา ซึ่งราคาก็เบา ๆ สบายกระเป๋า เพียง 1,850 บาทเองน้า

4.  VANS – Old Skool

รองเท้า VANS ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แน่นอนว่าเราจะพลาดไม่ได้ที่จะต้องมีเก็บไว้เป็นรองเท้าผ้าใบคู่กายซักคู่ ต้องบอกเลยว่ารุ่นนี้เขาออกแบบมาให้ดูเป็นงานแฟชั่น ด้วยผ้าแคนวาส ดีไซน์สวย รับรูปเท้า ระบายอากาศได้ดี แถมยังกันกระแทกได้ดีเป็นที่นิยมให้หมู่นักสเกตบอร์ด เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่สวมใส่อย่างสบายแน่นอน ราคาไม่แพง อยู่ในช่วงที่เอื้อมถึง ประมาณ 2,400 บาทเท่านั้น

5.  Converse – Chuck Taylor All Star

มาเอาใจสายเท่ แนวสตรีทกันบ้าง กับรองเท้าหุ้มข้อจากรองเท้าผ้าใบแบรนด์ดังที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ด้วยการดีไซน์แบบเรียบง่าย บวกกับโลโก้ของแบรนด์ที่แปะอยู่บนรองเท้าสีพื้นนั้นก็สามารถทำให้รองเท้าผ้าใบคู่นี้ดูเท่ไม่ใช่น้อย ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้วนั้น ก็ยังสามารถระบายอากาศได้ดี สวมใส่สบาย ง่ายในทุกโอกาส ราคาก็สุดคุ้ม เริ่มต้นที่ประมาณ 1,950 บาทเองจ้า

วิธีการวัดขนาดของเท้า ให้พอดีกับรองเท้าผ้าใบผู้หญิง

ก่อนจะตกลงปลงใจซื้อรองเท้าได้นั้น เราต้องวัดไซส์ให้ถูกต้องและพอดีกับขนาดเท้าของเราก่อน ซึ่งสามารถทำได้โดยการวัดตั้งแต่ส่วนของส้นเท้ามาจรดนิ้วโป้งเท้า อาจจะวางเท้าบนกระดาษแล้วทำเครื่องหมายไว้ก็ได้ จากนั้นทำการวัดจากเครื่องหมายที่ทำไว้ก็จะได้ขนาดเท้าของเรา เป็นหน่วยเซนติเมตร หรือนิ้วก็ตามแต่สะดวก เมื่อเราจะซื้อของเท้าผ้าใบซักคู่ ก็เอาขนาดที่วัดได้นั้นไปเทียบกับตารางรองเท้าผ้าใบผู้หญิงแต่ละแบรนด์ได้เลย

บทสรุป How to วิธีการดูแลรองเท้าผ้าใบผู้หญิงให้สามารถใส่ได้นานแสนนาน

ลำดับสุดท้ายเมื่อเราได้รองเท้าผ้าใบผู้หญิงคู่ที่ถูกใจที่สุดมาไว้ในครอบครองแล้ว การดูแลรองเท้าผ้าใบให้เราสามารถใช้งานได้นาน ๆ ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ซึ่งวิธีการก็ไม่ได้ยุ่งยากมากมายอะไรนัก อาจจะทำได้โดยการซักทำความสะอาดเมื่อมีคราบสกปรกเปื้อนมากับรองเท้าของเรา ด้วยการแกะเชือกรองเท้า ถอดพื้นภายในออก แล้วจุ่มลงในน้ำอุ่นที่ผสมกับผงซักฟอกเล็กน้อย จากนั้นทำการขัดคราบสิ่งสกปรกทั้งหมดออก ล้างด้วยน้ำเปล่า ซับน้ำเล็กน้อย ยัดด้วยกระดาษให้รองเท้าคงรูปเดิม จากนั้นนำไปตากแดด เป็นอันเสร็จสิ้นการดูแล

นอกจากปัญหาผิวคล้ำเสียจากแสงแดดที่แรงแทบทั้งปีของบ้านเราแล้ว ยังมีปัญหาความมันส่วนเกินบนใบหน้ามากวนใจ ไอเทมฮิตอีกตัวนึงที่ขาดไม่ได้ก็คือ แป้งคุมมัน ซึ่งจะช่วยควบคุมความมัน เสริมความมั่นใจให้เป๊ะ ปังตลอด ด้วยสภาพผิวของที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลิกเครื่องสำอาง ให้เหมาะสมก็เป็นเรื่องที่จำเป็น วันนี้เราจึงรวบรวม 5 อันดับแป้งมันยอดฮิตที่นิยม รวมถึงวิธีการเลือกสำหรับแต่ละสภาพผิวมาฝากเพื่อนๆด้วย 

แป้งคุมมันคืออะไร

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกันก่อน ว่าแป้งคุมมันคืออะไร เดี๋ยวนี้มีออกมาให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ว่าแป้งพัฟ หรือแป้งฝุ่น ซึ่งคุณสมบัติก็จะช่วยควบคุมความมันส่วนเกินที่เกิดขึ้นในระหว่างวัน และความมันเหล่านี้ก็เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวต่างๆตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาสิว 

เลือกแป้งคุมมันยังไงให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง

แป้งคุมมันกลายมาเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้ของใครหลายคน สำหรับการเลือกแป้งให้เหมาะกับสภาพผิวนั้น เราต้องรู้จักสภาพผิวของตัวเองก่อน แล้วจึงเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน อย่างเช่นหากคุณเป็นคนที่มีผิวแห้ง อาจจะเลือกแป้งคุมมันที่เน้นการปกปิด หรือหากเป็นสิว ก็ควรเลือกแป้งให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอุดตันทำให้เป็นสิวหนักยิ่งกว่าเดิม

แป้งสำหรับคนผิวมัน

สำหรับใครที่มีผิวมันหรือผิวผสมค่อนไปทางมันหน่อย นี่เป็นไอเทมที่คุณห้ามพลาดเลยทีเดียว การเลือกแป้งสำหรับคนหน้ามันนั้น ควรเลือกแป้งที่สามารถควบคุมความมันส่วนเกินโดยที่ไม่อุดตันรูขุมขน สามารถกันเหงื่อเพื่อป้องกันปัญหาการทิ้งคราบมากวนใจ แป้งคุมมันที่แนะนำสำหรับคนกลุ่มนี้

แป้งสูตร OIL-FREE 

แป้งสูตรนี้จะสามารถช่วยควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี รวมถึงไม่อุดตันรูขุมขนอีกด้วย สูตร OIL-FREE ส่วนใหญ่เขาจะมีส่วนผสมของ SILICA หรือ ZINC เพื่อช่วยดูดซับความมันบนใบหน้า

แป้งสูตร MATTE

แป้ง MATTE ประเภทนี้จะให้ความรู้สึกแห้ง ไม่เหนอะหนะ บนผิว เป็นไอเทมที่หลายคนมองหา แต่ปัญหาของแป้งประเภทนี้คือปัญหาเครื่องสำอางตกร่องระหว่างวัน ทำให้มีการพัฒนาแบบ SEMI-MATTE ออกมาซึ่งในสูตรนี้เขาจะให้ความรู้สึกที่มันวาวไม่แห้งจนเกินไป และแก้ปัญหาแป้งตกร่องระหว่างวันได้อีกด้วย

แป้งสูตรผสมรองพื้น

แป้งสูตรนี้จะสามารถช่วยปกปิดได้เป็นอย่างดี ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีผลิตออกมาให้เลือกเยอะแยะมากมาย ทั้งเน้นการปกปิด หรือสูตรที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน ด้วยเนื้อสัมผัสที่พัฒนาออกมาได้บางเบาขึ้นเรื่อยๆทำให้นี่เป็นตัวเลือกที่หลายคนสนใจ

เทคนิคเลือกแป้งสำหรับคนเป็นสิว

ปัญหาสิวเป็นอีกหนึ่งปัญหากวนใจหลักๆ การเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับผิวที่เป็นสิวนั้นก็ค่อนข้างที่จะมีข้อจำกัด ยิ่งเป็นคนผิวมันด้วยแล้วการเกิดสิวเป็นเรื่องที่พบได้ง่ายมาก การเลือกแป้งสำหรับผิวที่เป็นสิวนั้น ไม่ควรเลือกแป้งที่ก่อให้เกิดการอุดตัน เลี่ยงส่วนผสมที่จะก่อให้เกิดการระคายเคือง อย่างเช่นน้ำหอม หรือ สารกันเสีย การเลือกแป้งให้เหมาะสม อาจจะเลือกตัวที่ได้ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญมาแล้วว่า ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เพื่อไม่ให้ปัญหาที่เรามีหนักขึ้น

แป้งคุมมันทำงานยังไง

สำหรับแป้งคุมมัน หลักการทำงานของเขาก็คือจะช่วยสร้างความเรียบเนียนให้กับผิวขอเรา ปกปิดริ้วรอย และมีส่วนช่วยในการควบคุมความมันส่วนเกินที่เกิดขึ้น ในเนื้อแป้งเขาจะมีเทคโนโลยีที่เขามาช่วยคุมความมันบนผิวต่างจากแป้งผงทั่วไปที่จะไปรวมตัวกับความมันแทน ทำให้เป็นตัวเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาผิวในยุคนี้ได้

วิธีการเลือกเฉดสีแป้ง

การเลือกสีแป้งเป็นอีกเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญ ในปัจจุบัน เราก็มีเฉดสีของแต่ละแบรนด์ให้เลือกมากมาย ซึ่งหลักการเลือกนั้นต้องเลือกให้เข้ากับสีผิวหน้าของเรา ไม่อันเดอร์หรือโอเวอร์จนเกินไป หลักสังเกตง่ายๆอาจจะดูจากเส้นเลือกบริเวณข้อมูล ส่วนใหญ่ก็จะแบ่งเป็น 3 โทน คือ COOL SKIN (ผิวขาวชมพู )เส้นจะออกไปโทนม่วงน้ำเงิน NEUTRAL SKIN (กลาง) เส้นจะก้ำกึ่งระหว่างสีเขียวกับสีน้ำเงิน และสุดท้าย WARM SKIN ที่พบมาในกลุ่มเอเชีย กลุ่มนี้เส้นเลือดจะเป็นสีเขียว

5 อันดับ แป้งคุมมันตัวเด็ดที่ไม่ควรพลาด

1.  MAC Studio Fix Powder Plus

แป้งคุมมันตัวแรกที่เราจะมาแนะนำจากแบรนด์ MAC อีกหนึ่งตัวตำนานของใครหลายคน ตัวนี้เขาทำออกมาเป็นแป้งพัฟสำหรับคนหน้ามัน ที่มีปัญหารูขุมขนกว้างโดยเฉพาะ เป็นแป้งผสมรองพื้นที่มาในรูปแบบของเนื้อแมท ให้ผิวดูเรียบเนียน กลบริ้วรอยและรูขุมขนได้เป็นอย่างดี ซึ่งเคลมมาว่าติดทนนานถึง 2 ชั่วโมง และไม่เป็นคราบเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว เกลี้ยงง่าย 

ราคา 1600 บาท

2.  COVERMARK Silky Fit

แป้งที่ช่วยควบคุมความมันผสมรองพื้นอีกตัวที่มีความบางเบา ไม่อุดตันรูขุมขน เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาผิวมันรูขุมขนกว้าง ตัวนี้เขาบอกว่ามีเทคโนโลยี MICRO PRESS METHOD ที่จะช่วยให้แป้งยึกเกาะกับผิวได้เป็นอย่างดี เติมเต็มผิวให้เรียบเนียนมากขึ้น กันเหงื่อ ติดทนไม่เป็นคราบ หมดปัญหาของการหลุดของเครื่องสำอางในระหว่างวันอีกด้วย

ราคา 2200 บาท แบบ REFILED 1500 บาท

3.  Butae Super Oil-Control Powder Double Formula

ตำนานแป้งราคาถูกที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานที่อยู่ในใจใครหลายคน ด้วยคุณสมบัติที่สามารถควบคุมความมันได้ยาวนาน ปกปิดเนียนทั้งรอยสิว ริ้วรอยต่างๆและจุดด่างดำบนใบหน้า อีกทั้งยังสามารถเบลอรูขุมขนให้ดูเล็กลงได้อีกด้วย 

ราคา 158 บาท

4.  Chaonang Perfect Bright UV 2 Way Powder Foundation

แป้งพัฟแบรนด์ไทย ที่กระแสมาแรง ด้วยคุณสมบัติที่สามารถปกปิดได้อย่างเรียบเนียน กันน้ำกันเหงื่อ ได้ในระดับหนึ่ง เนื้อแป้งเกลี่ยง่าย นุ่มสบายผิว คุมมันได้ยาวนาน ช่วยให้การแต่งหน้าของคุณติดทนมากขึ้น และด้วยความที่เป็นแบรนด์ผู้ผลิตจากไทย ทำให้เฉดสีของแป้งตัวนี้เข้ากับผิวของคนไทยได้ดี

ราคา 399 บาท

5.  Eglips Blur Powder Pact

แป้งพัฟแบรนด์เกาหลีที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่ง สำหรับตัวนี้เนื้อแป้งมาในรูปแบบบางเบาเนื้อเนียนละเอียด สบายผิว แต่สามารถช่วยปกปิดรูขุมขนได้อย่างเรียบเนียนดูเป็นธรรมชาติ ผิวดูกระจ่างใสขึ้น มีเทคโนโลยีที่สามารถช่วยเบลอรูขุมขนให้ดูเล็กลง

ราคา 235 บาท 

สรุป แป้งคุมมันยอดฮิต 

แป้งคุมมันเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ขาดไม่ได้สำหรับใครที่แต่งหน้า ด้วยสภาพอาการบ้านเราและปัญหาต่างๆที่เราเจอในแต่ละวัน และด้วยกระแสเทรนการแต่งห้นาที่มาแรง ให้ความสนใจกับ แป้งหน้าใส แต่ยังช่วยปกปิดได้อย่างเรียบเนียน ซึ่งเดี๋ยวนี้แต่ละแบรนด์ก็พัฒนาเทคโนโลยีมาตอบโจทย์ได้กว้างขึ้นเรื่อยๆ แต่เรื่องสำคัญอีกเรื่องคือการเลือกเฉดสีให้เหมาะสม ไม่ควรเลือก แป้งหน้าขาว จนเกินไป หรือแป้งที่เข้มกว่าสีผิว เพื่อให้เราได้มั่นใจกับลุคในแต่ละวันมากขึ้น

ในยุคที่สื่ออย่างโทรทัศน์ หรือวิทยุกำลังถดถอย ปัจจุบันดาราไทยส่วนใหญ่ก็หันมาใช้แฟลตฟอร์มต่าง ๆ บนโซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่ในการทำงานกันมากขึ้น นับตั้งแต่มีโลกอินเทอร์เน็ตเข้ามา จนเกิดการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่มากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก รวมถึงในไทยเองนั้นมีสัดส่วนที่เพิ่มมากขึ้น 

ชีวิตบนโลกออนไลน์กับรูปแบบการใช้ชีวิตในปัจจุบัน

ชีวิตบนโลกออนไลน์ก็เข้ามามีอิทธิพลกับรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนในเกือบทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม รับส่งอีเมลหรือแม้กระทั่งการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ ตลอดจนใช้อินเทอร์เน็ตในการสื่อสารทางการตลาดและขายสินค้าออนไลน์ผ่านทาง Instagram ของดาราไทยที่มีชื่อเสียงก็กำลังเป็นที่นิยม

INSTAGRAM ที่เหล่าดาราไทยนิยมใช้ คืออะไร?

ดาราไทยนิยมใช้ Instagram เป็นอีกแฟลตฟอร์มหนึ่งในการฝากผลงาน โปรโมทชิ้นงานและสินค้าต่าง ๆ แล้ว Instagram นั้นคืออะไร ตามเรามาทำความรู้จักเจ้าสิ่งนี้กันให้มากขึ้นเลยค่า INSTAGRAM เป็นอีกหนึ่งแอปพลิเคชันที่อยู่บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมจากนักแสดงไทยและคนทั่วโลก ถูกสร้างและออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับถ่ายภาพ ตกแต่งรูปภาพ สร้างคอนเทนต์ แล้วแชร์สื่อเหล่านั้นออกมาในรูปแบบของรูปภาพ ข้อความ และวิดีโอ เพื่อสื่อสารกับผู้ใดก็ตามที่กำลังติดตามเราอยู่ ทำให้ดาราไทยมีงานมากขึ้น

INSTAGRAM มีอิทธิพลต่อการขายสินค้าและการสร้างรายได้ของดาราไทยอย่างไร?

การขายสินค้าผ่านช่องทางตลาดออนไลน์นั้นกลายเป็นกระแสที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากรูปแบบการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน ทำให้ผู้คนหันมาเสพความสะดวกสบายด้วยการทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ตบนมือถือสมาร์ทโฟนกันมากขึ้นด้วย เกิดเป็นช่องทางในการหารายได้ของผู้ประกอบการยุคใหม่ รวมถึงดาราไทยส่วนใหญ่ก็สามารถสร้างตัวเป็นดาราที่รวยที่สุดจากแฟลตฟอร์มนี้ได้เช่นกัน แถมยังมีข้อได้เปรียบในการขายสินค้าตรงสามารถใช้ตัวเองเป็นพรีเซนเตอร์ไปพร้อมกับสินค้าชิ้นนั้น โดยมีคนเข้าถึงสินค้าได้จำนวนมาก

5 อันดับ ดาราไทยที่มียอดผู้ติดตามบน INSTAGRAM มากที่สุด

ในขณะที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 การทำงานในหลายสายอาชีพต้องเปลี่ยนไปตามรูปแบบการใช้ชีวิต ถึงเศรษฐกิจจะหยุดโต แต่การพัฒนาแฟลตฟอร์มและการหารายได้ผ่านช่องทางออนไลน์กลับเพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับดาราไทยที่ต้องหาช่องทางใหม่ในการสร้างรายได้ทดแทนค่าตัวดาราหดหายไป จึงหันมาใช้ Instagram มากขึ้น แฟนคลับก็ต้องอพยพกันมาติดตามผลงานผ่านช่องทางนี้ วันนี้เราจะมาตามส่อง 5 อันดับเหล่าดาราสาวไทยและนักแสดงหนุ่มหล่อในวงการทั้งหลายว่าใครจะมียอดผู้ติดตามบน Instagram มากที่สุด

1.  ลิซ่า BLACKPINK

ความปังอันดับที่หนึ่งคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “ลิซ่า BLACKPINK” หรือ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล สาวน้อยมหัศจรรย์ ซึ่งเธอใช้ชื่อ Account Instagram ว่า @lalalalisa_m ที่เปิดตัวได้ไม่นานนักก็มาแรงแซงทุกคน จนมียอดผู้ติดตามพุ่งสูงถึง 71,566,586 คน และยังคงเพิ่มขึ้นย่างต่อเนื่อง ด้วยใบหน้าสวยเปื้อนยิ้มที่มีเสน่ห์ของเธอ บวกกับความสามารถที่โดดเด่นเป็นที่ยอมรับในวง K-POP ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลก ทำให้เธอเป็นอีกหนึ่งคนดังที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ระดับโลก 

2.  แบมแบม กันต์พิมุกต์ 

ลำดับต่อมาต้องยกให้ดาราชายไทยผู้มากความสามารถ “แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล” หรือที่เรารู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีในชื่อ “แบมแบม GOT7” อดีตสมาชิกวงบอยแบนด์เกาหลีชื่อดังระดับโลก ที่เพิ่งหมดสัญญาไปได้ไม่นาน แต่หนุ่มน้อยอารมณ์ดีอย่างแบมแบมก็ยังคงมีงานเดี่ยวทั้งในไทยและเกาหลีใต้ ทำให้ตอนนี้ Account Instagram ที่เปิดตัวมาในชื่อ @bambam1a มียอดผู้ติดตามสูงถึง 15,277,551 คน รับบทเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าทั้งแบรนด์ไทย เกาหลีใต้ และอื่น ๆ อีกมากมาย

3.  ใหม่ ดาวิกา

นางเอกสาวหน้าสวยอย่าง “ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่” ลูกครึ่งไทย – เบลเยี่ยม ที่รับบทเป็นทั้งนักแสดง นางแบบ และเจ้าของธุรกิจ ด้วยความสวยปนแซ่บของเธอนั้นทำให้งานหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ทั้งยังเคยเป็นถึงนางเอกพันล้าน ฉายาที่ได้มาจากผลงานการแสดงเรื่องพี่มากพระโขนง ยิ่งทำให้เธอเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าเป็นต้นแบบให้กับสาว ๆ หลายคนที่ชื่นชอบในสไตล์ของเธอ จนในตอนนี้ Account Instagram ของสาวใหม่ที่ใช้ชื่อว่า davikah มียอดผู้ติดตามสูงถึง 15,124,639 คนเลยจ้า

4.  อั้ม พัชราภา

นางเอกสาวผู้เป็นตำนานความสวยที่ไม่เลือนรางและจางหาย เปล่งประกายมีออร่าเหมือนดวงดาว “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” เป็นขวัญใจแฟน ๆ หลายช่วงวัยในทุกยุคทุกสมัยเลยจริง ๆ เรียกได้ว่าเป็นตัวแม่แห่งวงการบันเทิงไทยเลยก็ว่าได้ ด้วยภาพลักษณ์ของนางเอกสาวสวย เซ็กซี่ โดดเด่นตรงมีความมั่นใจ นอกจากผลงานละครที่เธอผานมานับไม่ถ้วนแล้วนั้น เธอยังได้รับเลือกให้เป็นพรีเซนเตอร์สินค้าแบรนด์ดังมากมายอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับความงามทุกแขนงเอาใจสาวไทย

5.  ญาญ่า อุรัสยา

อันดับสุดท้ายแต่ยังไม่ท้ายสุด นางเอกสาวลูกครึ่งไทย – นอร์เวย์ ผู้มีหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก “ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์” นักแสดงและนางแบบขวัญใจผู้คนในหมู่ซุปตาร์ไทย ที่มาพร้อมกับยอดผู้ติดตามกว่า 11,156,357 คน บน Account Instagram ชื่อ urassayas ไม่ว่าเธอจะหยิบจับสิ่งใดมาถ่ายรูปโพสต์ท่าทางทั้งแบบน่ารักนิด ๆ เซ็กซี่หน่อย ๆ แต่จุดโฟกัสของหลายคนก็พุ่งตรงไปยังสิ่งของที่เธอถืออยู่ในรูป ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีสิ่งของชิ้นนั้นก็จะกลายเป็นกระแสความนิยมและเป็นที่ต้องการในตลาดทันที

บทสรุป 

เนื่องจากเครือข่ายทางสังคมของดาราไทย เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ผู้ติดตามจำนวนมากเข้าถึงและมองเห็นสิ่งที่เหล่าคนมีชื่อเสียงต้องการจะสื่อ ผู้ประกอบการและดาราเองนั้นจึงอาศัยข้อได้เปรียบตรงนี้มาเพิ่มได้รายและสร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์สินค้าของตนเองเป็นที่รู้จักมากขึ้น เรียกได้ว่าตัวดาราเองนั้นก็ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จัก หรือในบางครั้งสินค้าชื่อดังก็ส่งเสริมให้ดาราที่เป็นพรีเซนเตอร์นั้นมีชื่อเสียงมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นสิ่งเหล่านี้นั้นจะเกิดขึ้นได้จากการพึ่งพากันของทั้งสองฝ่ายนั่นเอง

เข้าปี 2022 กระแสคนเล่นต้นไม้ก็ยังเป็นที่นิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึง วงการต้นไม้ด่างราคาแพง ที่หลายคนให้ความสนใจอยู่เสมอ ไม่ว่าจะมือเก่าหรือมือสมัครเล่น ก็แวะเวียนเข้ามาในวงการนี้อย่างไม่ขาดสาย วันนี้เราก็จะพาทุกคนมาเปิด 5 อันดับต้นไม้ด่าง แต่กำลังนิยมในตลาด ที่รับรองเลยว่าสวยถูกใจ จนคุณต้องตกหลุมรักอย่างแน่นอน และนอกจากนี้เราก็ยังมีวิธีการดูแลต้นไม้เหล่านั้นมาฝากเผื่อเพื่อนๆคนไหนสนใจจะเข้าวงการ จะได้เป็นข้อมูลติดตัวไว้ก่อน ถ้าพร้อมแล้วเราไปลุยกันเลย

รู้จักต้นไม้ด่างราคาแพง ทำไมถึงราคาสูงกว่าปกติ

วงการต้นไม้ เป็นอีกหนึ่งวงการที่มีผู้สนใจมากหน้าหลายตา แวะเวียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงต้นไม้ด่างราคาแพงเอง ที่กำลังเป็นที่นิยม แต่ก่อนอื่นเราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักถึงการเกิดต้นไม้ด่างเหล่านี้กันก่อน ว่าทำไมถึงราคาสูงกว่าปกติ ต้นไม้ด่างนั้น มีทั้งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและเกิดจากการตัดแต่งพันธุ์กรรม ซึ่งที่เราเห็นส่วนใหญ่นั้นก็เป็นการเกิดตามธรรมชาติ เพราะถึงแม้จะมีเทคโนโลยีเข้ามาแต่การเกิดไม้ประเภทนี้ก็ยังทำยากอยู่ดี ดังนั้นลักษณะด่างของต้นไม้จึงเป็นเหมือนแรร์ไอเทมที่ทำให้ราคาสูงขึ้นกว่าปกติ

5 สาเหตุหลักของการเกิดต้นไม้ด่างราคาแพง 

จากที่เราได้กล่าวไปแล้วว่าสาเหตุของการเกิดต้นไม้ด่างราคาแพงนั้นมีทั้งเกิดจากรรมชาติและฝีมือมนุษย์ ที่เราพบเห็นอยู่ในตอนนี้ก็เป็นลักษณะที่เกิดตามธรรมชาติ ซึ่งสาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดต้นไม้ประเภทนี้

1. เกิดจากการขาดแสงสว่างของต้นไม้

2. ความผิดปกติของเนื้อเยื้อใบ

3. ลักษณะทางพันธุกรรม

4. โรคในต้นไม้

5. การขาดสารอาหาร

ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ล้วงส่งผลต่อเม็ดสี และสารพันธุกรรมของต้นไม้ ทำให้พันธุ์ไม้เกิดลักษณะด่างขึ้น

5 อันดับ ต้นไม้ด่างราคาแพง ที่มาแรงในตลาด

ต้นไม้ด่างราคาแพง ที่กำลังมาแรงในตลาดต้นไม้ก็มีมากมายหลายชนิด หลายคนที่กำลังสนใจอาจจะยังเริ่มต้นไม่ถูกว่าจะเริ่มจากต้นไหนดี มีทั้งไม้ประดับ ต้นไม้มงคล หรือต้นไม้ฟอกอากาศ วันนี้เราก็จะมาแนะนำ 5 ไม้ด่างยอดนิยม ที่น่าสนใจ กำลังเป็นกระแสที่เรียกได้ว่า ของมันต้องมี

1.  MONSTERA MINT 

พันธุ์ไม้ยอดฮิตที่หลายคนรู้จัก มอนสเตอร่าเองเป็นต้นไม้ที่ได้รับการขนานนามว่าราชินีต้นไม้ประดับ จุดเด่นของต้นไม้ชนิดนี้ก็คือ ใบขนาดใหญ่ที่มีลักษณะแฉกตั้งแต่ขอบใบเข้ามาจนเกือบถึงเส้นกลางใบ ในความพิเศษของ MONSTERA MINT ใบจะมีสีเขียวมินท์ ดูแตกต่างจากปกติ ซึ่งราคาของสายพันธุ์นี้ สูงถึงหลักล้านบาทต่อต้นเลยทีเดียว

2.  กล้วยด่าง

พลาดไม่ได้ที่จะแนะนำต้นนี้จริงๆ ด้วยกระแสมาแรงของเขา สั่นสะเทือนทั่ววงการต้นไม้จริงๆ ต้นกล้วยเดิมเป็นพืชเศรษฐกิจที่หลายคนรู้จักอยู่แล้ว แต่ล่าสุดที่พบลักษณะด่างเกิดขึ้นทำให้กลายเป็นต้นไม้ราคาแพงที่เพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัว แตะหลักแสนกันเลยทีเดียว ลักษณะที่พบส่วนมากก็จะพบในสายพันธุ์ กล้วยฟลอริดาด่าง กล้วยแดงอินโด กล้วยน้ำว้าด่าง และ กล้วยตานีด่าง 

3.  ต้นยางอินเดียด่าง 

สำหรับพันธุ์นี้ ครองกระแสมาอย่างต่อเนื่อง ลักษณะเด่นของอยู่ที่ใบที่จะมีความมันเงา สีเขียวคล้ำค่อนไปทางดำ ดูมีเสน่ห์สวยงาม ยิ่งเพิ่มลักษณะด่างเข้าไป อย่างเช่น ด่างชมพู ด่างขาว ด่างเหลือง หรือด่างสามสี ยิ่งทำให้ต้นไม้ชนิดนี้เพิ่มความสวยงาม เป็นต้นไม้ปลูกในบ้านที่หลายคนนิยม เพราะไม่ใช่แค่จะสวยงามเท่านั้นแต่ยังมีคุณสมบัติดูดซับสารพิษภายในห้องได้อีกด้วย สำหรับราคาก็มีเริ่มต้นตั้งแต่เบาๆไปจนถึง เหยียบหลักพันขึ้นกับความหายาก

4.  ต้นบอนสี

ต้นไม้ยอดฮิตที่นิยมเล่นกันมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่คุณย่า สำหรับบอนสีเองก็มีมากมายแยกย่อยไปอีกหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีลักษณะด่างที่แตกต่างกันไป อย่าง พันธุ์ สยามนฤมิตร ก็เป็นอีกหนึ่งบอนสีราคาแพง เฉลี่ยแล้ว อยู่ที่ 180,000 บาท ลักษณะของเขาก็จะเป็นต้นใบกลม ขอบใบหยักเล็กน้อย ใบมีสีด่างเขียวและแดงผสมกัน คล้ายกับกระเบื้องโมเสค ทำให้เป็นพันธุ์ที่หายากและถือเป็นตัวท็อปของวงการบอนสีในขณะนี้

5.  ฟิโลเดนดรอน พิงค์ปริ๊นเซส 

มาถึงต้นไม้ด่างชมพูกันสักหน่อย กับสายพันธุ์ฟิโล เป็นอีกหนึ่งไม้ยอดนิยมในวงการต้นไม้ด่างราคาแพง สำหรับต้นไม้ชนิดนี้ลักษณะเด่นของเขาก็จะอยู่ที่ฟอร์มกอที่สวยงาม ใบคล้ายรูปหัวใจ สีของใบพื้นเป็นสีเขียวมะกอกจนถึงเขียวเข้มเกือบดำ แซมด้วยจุดด่างชมพู ตัดกับสีเขียวเข้มแล้วทำให้ใบดูมีเสน่ห์สวยงามมีลูกเล่นเพิ่มขึ้น จึงเป็นที่นิยม สำหรับราคาของพันธุ์ไม้ชนิดนี้ ก็เริ่มต้นที่หลักพันขึ้นอยู่กับลักษณะ ความหายากและความสวยงาม

ดูแลต้นไม้ด่างราคาแพงยังไงให้รอด

การดูแลต้นไม้ด่างราคาแพง จำเป็นต้อง ใส่ใจรายละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งการรับแสง หรือการให้น้ำต้นไม้บางชนิดจำเป็นต้องอาศัยการพรางแสง อย่างเช่น มอนสเตอร่าหรือ ฟิโลเดนดรอน หรือบางชนิดที่ชอบแดดจัดก็ไม่ควรเลี้ยงในที่ร่ม แต่ต้นไม้ด่างทุกชนิดจะค่อนข้างอ่อนแอในช่วงที่ยังเป็นต้นอ่อนจึงไม่ควรนำไปปลูกกลางแดด สำหรับการให้น้ำไม่ควรมากเกินไปเพราะการคายน้ำของไม้ด่างทำได้น้อยกว่าปกติ จึงควรมีการควบคุมปริมาณน้ำให้พอเหมาะด้วย

สรุป ต้นไม้ด่างราคาแพง วงการที่กำลังมาแรงในยุคนี้

ต้นไม้ด่างราคาแพง เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนนิยม เพราะนอกจากจะสวยงามแล้วยังเป็นเสมือนของสะสมของใครหลายคน เสน่ห์ของแต่ละต้น ดึงดูดเหล่าคนเล่นต้นไม้ให้หลงใหลในความงามนั้น การปลูกต้นไม้ ถือเป็นกิจกรรมที่หลายคนให้ความสนใจ ยิ่งสถานการณ์ช่วงนี้ทั้งปัญหา มลภาวะ และปัญหาความเครียด นี่จึงเป็นกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย ซึ่งการดูแลต้นไม้ จำเป็นต้องใช้ความเข้าใจและความใส่ใจ เพื่อให้ต้นไม้เหล่านั้นเติบโตได้อย่างสนบูรณ์สวยงาม ดังนั้นใครที่กำลังสนใจก็อย่าลืมหาข้อมูลก่อนเริ่มปลูก

หากพูดถึงการลงทุนยอดนิยมที่กำลังเป็นกระแส นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “CRYPTOCURRENCY” เหรียญดิจิตอลที่นักลงทุนทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่หันกลับมาให้ความสนใจกันมากขึ้นในปัจจุบัน หลังจากที่ราคาเหรียญบิตคอยน์พุ่งสูงปรี๊ดชนิดที่เรียกได้ว่าทะยานทะลุท้องฟ้ากันไปในช่วงกลางปีของปี 2021 ที่ผ่านมา พร้อมกับเป็นช่วงเวลาที่ TESLA บริษัทธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าของมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกทุ่มซื้อเหรียญชนิดนี้กว่า 1.5 พันล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ ดึงดูดให้ผู้คนเกิดความสนใจหลั่งไหลเข้าวงการเทรดเหรียญดิจิตอล

ชวนมาทำความรู้จักกับ CRYPTOCURRENCY

วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ CRYPTOCURRENCY ที่มีมากมายหลากหลายสกุลเหล่านี้ให้มากขึ้น ว่าเราจะสามารถลงทุนได้อย่างไร เริ่มจากแฟลตฟอร์มใดได้บ้าง แล้วมีสกุลเหรียญไหนที่กำลังเป็นที่นิยม และน่าลงทุนบ้าง สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่กำลังอยู่ในช่วงศึกษาหาข้อมูลตามเรามาดูกันได้เลย

CRYPTOCURRENCY สกุลเงินดิจิตอลนี้คืออะไร?

ชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับ คริปโตเคอร์เรนซี สกุลเงินดิจิตอลที่หลายคนอยากลงทุนให้มากขึ้น เริ่มจากการทำความเข้าใจกันก่อนว่า CRYPTOCURRENCY คือ เหรียญดิจิตอล, สกุลเงินดิจิตอล หรือสินทรัพย์ดิจิตอลที่ไม่มีตัวตนตน ไม่สามารถจับต้องได้ และยังไม่ใช่เงินตราตามกฎหมายโดยรัฐเหมือนอย่างเช่นธนบัตร และเหรียญกษาปณ์สกุลเงินต่าง ๆ ที่เราใช้กันในแต่ละประเทศ เป็นเพียงสกุลเงินเสมือนที่มีมูลค่าแปรผันตามกลไกราคากลางในตลาด ใช้แลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าและบริการได้บนโลกออนไลน์เท่านั้น 

หลักการทำงานของ CRYPTOCURRENCY

การทำงานของคริปโตเคอร์เรนซีจะต้องมีการเข้ารหัสความปลอดภัยที่มีความน่าเชื่อถือบนระบบบล็อกเชน ซึ่งนำมาใช้เพื่อการป้องกัน และยืนยันธุรกรรม แทนการดำเนินการผ่านตัวกลางอย่างธนาคาร และสถาบันการเงินอื่นใด 

คริปโตกับการยอมรับของคนทั่วโลก แม้จะยังไม่มีกฎหมายรองรับ

ถึงแม้ว่า CRYPTOCURRENCY จะยังไม่ได้รับการยอมรับเป็นเงินตราตามกฎหมาย แต่ด้วยความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นบวกกับการทำงานบนระบบที่มีความน่าเชื่อถือของเหรียญดิจิตอลที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบในการทำธุรกิจของโลก ทำให้ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการจากหลายประเทศทั่วโลกที่เริ่มเปิดรับการชำระค่าสินค้า และบริการด้วยสกุลเงินดิจิตอลบางสกุลกันบ้างแล้ว รวมถึงในไทยก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยจะต้องทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนผ่านหน่วยงานที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์

CRYPTOCURRENCY นำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง?

นอกจากคริปโตจะมีไว้เพื่อชำระเงินออนไลน์แล้ว ยังสามารถนำไปลงทุนในกองทุนที่เปิดให้มีการลงทุนคริปโต และบล็อกเชน นอกจากนี้ในปัจจุบันนักลงทุนส่วนใหญ่ยังเน้นไปที่การถือครองไว้ เพื่อเก็งกำไรอีกด้วย ซึ่งผลตอบแทนที่เราได้นั้นจะมาจากการเทรดแล้วรอเก็บกำไรจากส่วนต่างของราคาที่เปลี่ยนแปลงในตลาด หากเราเป็นมือใหม่ที่ยังไม่มั่นใจในการลงทุน สามารถติดตามความเคลื่อนไหวการแปรผันของมูลค่าเหรียญผ่าน TRADINGVIEW ได้เลย

อยากลงทุนเทรด CRYPTOCURRENCY ต้องเริ่มต้นอย่างไร?

สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่มีความสนใจเข้ามาลงทุนสามารถเริ่มต้นจากการทดลองใช้แฟลตฟอร์มต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการเทรด และการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น ZIPMAX และ BINANCE คือแฟลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลที่เป็นสากล มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วโลก รองรับสกุลเงินมากมายให้ได้แลกเปลี่ยน รวมถึงเงินบาทด้วย หรือจะเป็นบิทคับ แฟลตฟอร์มที่มีชื่อเสียง และจัดตั้งขึ้นโดยคนไทย และยังมีเกมที่สามารถแลกเงินได้ผ่านกระเป๋า BITKUB คือ เกม MORNING MOON VILLAGE ให้ได้เล่นแบบเพลิน ๆ กันด้วย

5 อันดับ เหรียญ CRYPTOCURRENCY น่าลงทุน และมาแรงที่สุด

ว่ากันว่ามูลค่าของ CRYPTOCURRENCY ขึ้นอยู่กับความต้องการซื้อ หากในช่วงไหนที่เหรียญนั้น ๆ ได้รับความสนใจ และให้ค่าจากผู้คน ก็จะทำให้มีมูลค่าสูงขึ้น เป็นที่ต้องการของนักลงทุนทั้งหลาย บนโลกนี้มีสกุลเงินดิจิตอลอยู่มากมายหลายพันสกุลให้เราได้เลือกกัน แล้วจะมีเหรียญดิจิตอลสกุลเงินใดบ้างที่ได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน ตามเรามาส่อง 5 อันดับ เหรียญดิจิตอลที่น่าลงทุน และมาแรงที่สุดในตอนนี้กันเลย

1.  BITCOIN (BTC)

เริ่มต้นจากสกุลเงินที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันดี และมีความเก่าแก่มากที่สุดอย่าง “BITCOIN” กันก่อนเลย BITCOIN เป็นเหรียญสกุลเงินดิจิตอลสกุลแรกของโลก ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี 2009 เพื่อเป็นตัวการในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำธุรกรรมของโลก ที่สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ โดยไม่ต้องดำเนินการใด ๆ ผ่านตัวกลาง เป็นอิสระจากสถาบันการเงินและรัฐบาล มีค่าธรรมเนียมต่ำมาก และมีอยู่บนโลกทั้งหมดเพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้น เพราะถูกกำหนดเอาไว้ว่าจะไม่สามารถเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ได้อีก 

2.  ETHEREUM (ETH)

มาต่อกันที่อีกหนึ่งเหรียญที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นที่นิยมรองจากเหรียญสกุลเงินแรกที่เราพูดถึง ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2015 โดยชายท่านหนึ่งที่เคยร่วมโปรเจคในการสร้าง BITCOIN แต่ความคิดของเขานั้นไม่เป็นที่ยอมรับ ทำให้เขาตัดสินใจออกมาพัฒนาสกุลเงินดิจิตอลตัวนี้ ที่มีวัตถุประสงค์ให้ ETHEREUM เป็นเหมือนกับคอมพิวเตอร์ที่ทุกคนทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้ มีความน่าเชื่อถือสูง และปลอดภัย ยากต่อการถูกโจรกรรมข้อมูล ทำให้มีผู้ใช้งานอยู่มาก เป็นที่นิยม และยอมรับในปัจจุบัน

3.  RIPPLE (XRP)

เป็นอีกหนึ่งสกุลเงินดิจิตอลยอดฮิตในแฟลตฟอร์มบล็อกเชน ระบบที่คนทั่วโลกกล่าวถึงกันมากที่สุด ถูกสร้างขึ้นโดยมีจุดประสงค์คล้าย ๆ กับการสร้าง BITCOIN นั่นคือ ความต้องการลดปัญหาที่เกิดจากตัวกลางในการทำธุรกรรมทางการเงินข้ามพรมแดน อำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมให้รวดเร็วขึ้น อยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย และที่สำคัญลดปัญหาการจ่ายค่าธรรมเนียมที่สูงให้กับสถาบันการเงิน จัดเป็นสกุลเงินดิจิตอลที่นักธุรกิจทั้งหลายให้ความสนใจและนิยมไปใช้กันอย่างแพร่หลาย

4.  BINANCE COIN (BNB)

เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่ได้รับความสนใจ และถูกจับตามองจากเหล่านักลงทุนมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ถูกสร้างขึ้นในปี 2017 โดย BINANCE แฟลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่ง BNB เคยทำงานอยู่บนเครือข่ายบล็อกเชนของ ETHEREUM แต่ภายหลังถูกพัฒนามาใช้งานบนระบบของตนเองเป็นที่เรียบร้อย ช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อขายให้ไวขึ้น มีความปลอดภัย และน่าเชื่อถือ ส่วนใหญ่จะนำไปใช้เพื่อชำระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทั้งค่าที่พัก โรงแรม และตั๋วเครื่องบิน 

5.  DOGECOIN

เหรียญ CRYPTOCURRENCY ชื่อเสียงโด่งดังมีที่มาจากความตั้งใจในการสร้างเหรียญเพื่อเป็นการล้อเลียนเหรียญ BITCOIN ที่กำลังมีชื่อเสียงอยู่ในขณะนั้น แต่ลึก ๆ แล้วผู้สร้างก็มีความต้องการที่จะผลิตเหรียญดิจิตอลที่สามารถใช้งานได้ง่ายกว่า BITCOIN นั่นเอง โดยกระแสนิยมของเหรียญดิจิตอลชนิดนี้นั้นมาจากการกล่าวถึงและเลือกลงทุนของมหาเศรษฐีบุคคลผู้ร่ำรวยที่ในโลกอย่างอีลอน มัสก์ที่ไม่ว่าเขาจะหยิบจับอะไรก็เป็นที่จับตามองไปเสียหมด รวมถึง DOGECOIN เองด้วย

บทสรุป ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง เรียนรู้การลงทุน

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีการยอมรับ CRYPTOCURRENCY มากขึ้นอย่างกว้างขวาง แต่เราต้องไม่ลืมความจริงที่ว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้น ผู้ลงทุนทุกรายต้องวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะนักลงทุนมือใหม่ที่มีความต้องการเข้ามาลงทุนในตลาดคริปโตจะต้องเตรียมตัวเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องของความรู้ ความเข้าใจในตัวเหรียญที่เลือกลงทุน รวมถึงวิธีการลงทุนที่ถูกต้อง และเหมาะสมกับความสามารถของตนเอง และที่สำคัญการมีสติในทุกขณะจะนำพาเราไปสู่การเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก

โทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟน ถือเป็นปัจจัยที่ 5 ที่ช่วยในการอำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตประจำวันยุค 4G โดยเชื่อมต่อกับคลื่นสัญญาณอินเทอร์เน็ตในการเข้าถึงแอพลิเคชั่นต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เคลื่อนที่ที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ทันสมัย ดีไซน์สวย สะดวก พกพาง่าย ซึ่งในปัจจุบันโทรศัพท์ก็มีการผลิตออกมาให้เลือกมากมาย ทั้งระบบ ANDROID และ IOS วันนี้เราจะพามาอัพเดต โทรศัพท์น่าใช้แห่งปี ว่ามีรุ่นไหนกำลังอยู่ในกระแสบ้าง ไปดูกันเลย

โทรศัพท์มือถือ คืออะไร

โทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟน คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ติดต่อสื่อสารระหว่างกัน มีฟังก์ชันในการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ดีไซน์สวย ทันสมัย พร้อมแอพลิเคชั่นที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินชีวิตประจำวันมากมาย โดยสามารถเข้าถึงแอพลิเคชั่นต่าง ๆ ด้วยการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ด้วยคลื่นสัญญาณอินเทอร์เน็ต หรือซิม ในเครือค่ายต่าง ๆ

5 อันดับโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไหนดีที่สุด 

1.  IPHONE 13 PRO MAX 

มาเริ่มกันที่โทรศัพท์มือถือตัวท็อปตลอดกาลอย่าง โทรศัพท์ IPHONE นาทีนี้ขอยกให้ IPHONE 13 PROMAX ของ APPLE ให้เป็นมือถือน่าใช้ที่สุดแห่งปี 2021 ด้วยเลนส์กล้องที่ถ่ายได้ดีมาก คุมโทนได้ดี แกลลอรี่ที่ทรงประสิทธิภาพ รองรับกับทุกสภาพแสง ภาพเหมือนจริง ธรรมชาติ ไม่หลอก ที่สำคัญ แบตโทรศัพท์ที่คงความทนอึด และมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมีหน้าจอที่สว่างพอดีกับสายตา กับหน้าจอ 20 เฮิร์ท การถ่ายวิดีโอคงความเสถียรของเฟรมเรท เรียกได้ว่ามีความคมชัด ไหลลื่น ไม่มีกระตุก และตัวเรื่องที่ทนทาน ใช้งานได้นาน 3 – 5 ปี กันน้ำ กันฝุ่นระดับเทพ นี่คือความคุ้มค่า และเหตุผลที่ยกให้ IPHONE 13 PROMAX เป็นโทรศัพท์ที่น่าใช้ที่สุดแห่งปีไปเลย

2.  GALAXY S21 ULTRA

มาต่อกันที่โทรศัพท์มือถือตัวอันดับสองรองท็อป ขอยกให้ GALAXY S21 ULTRA เป็น โทรศัพท์ SUMSUNG ที่มีหน้าจอ DYNAMIC AMOLED 2X ขนาด 6.9 นิ้ว ความจุ 12 GB แบตเตอรี่ 5,000 MAH มีความสว่างที่สูงมาก สะดวกในการปลดล็อคหน้าจอด้วยระบบสแกนนิ้วมือ ไม่ต้องใส่รหัส หรือเปิดแมสสแกนใบหน้าให้เสียเวลา มีระบบประหยัดพลังงาน กินพลังงานต่ำกว่าทุก ๆ รุ่นที่เคยออกมา สามารถสร้าง LINE สูงสุดได้ถึง 3 ACCOUT และสามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่กระตุก รองรับระบบ POP UP 2 หน้าจอได้เป็นอย่างดี ระบบANDROID มีให้อัพเดตตลอดเวลา ตัวกล้องสามารถซูมวิดีโอได้เยอะ

3.  OPPO RENO6 5G

มาถึงTOP3 กับ โทรศัพท์มือถือน่าใช้ แห่งปี 2021 รุ่น OPPO RENO6 5G เป็น โทรศัพท์ OPPO ที่มากับหน้าจอ 6.43 นิ้ว จอแสดงผล AMOLED ด้วยระบบสแกนนิ้วมือใต้จอ ความจุ 128 GB แบตเตอรี่จุ 4,300 MAH จุได้ 2 ซิม กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล เป็นสาร์ทโฟนสำหรับสายโซเชียลมีเดีย สามารถเล่นแอพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้อย่างไหลลื่น ไม่มีสะดุด รูปทรงของดีไซน์กระชับมือ กล้องหน้ามีความกล้องกว่า โทรศัพท์ OPPO ทุกรุ่น ระดับ 10/10 มีสีสันสดใสสไตล์ OPPO โหมดถ่ายภาพมีให้เลือกหลายโหมด ทำให้ภาพที่ออกมามีลูกเล่นที่ไม่ต้องผ่านโปรแกรม หรือแอพลิเคชั่นใด ๆ ให้ยุ่งยาก

4.  VIVO V21 5G

มาที่โทรศัพท์มือถือตัวท็อปอันดับ 4 อย่าง VIVO V21 5G เป็น โทรศัพท์ VIVO รุ่นนี้ถือว่าคุ้มกว่า โทรศัพท์ VIVO รุ่นอื่น ๆ เพราะคุณจะได้โทรศัพท์ 5G ในราคาที่ถูกกว่า โทรศัพท์OPPO รุ่นอื่น ๆ ได้ฟีเจอร์ของกล้องที่มีความคมชัดระดับ 44 ล้านพิกเซล โทนสีภาพสดใส สวย มีระดับ มี RAM ที่มีความจุเยอะ และแบตเตอรี่ที่อึด ทนรวมถึง FASTSHART ที่เป็นรูปแบบใหม่ของ VIVO สามารถเพิ่ม MICRO HD CARD ได้ ลำโพงเดี่ยวแต่ระดับเสียงดังดีมาก เรียกได้ว่าเป็นลำโพงเดี่ยวที่มีประสิทธิภาพสูงมาก เหมาะกับสายโซเชียล ไลฟ์สด ถ่ายรูปภาพ วิดีโอเป็นที่สุด

5.  HUAWEI P50 PRO

มาถึงอันดับที่ 5 โทรศัพท์มือถือรุ่น HUAWEI P50 Pro เป็น โทรศัพท์ HUAWEI มาพร้อมกับหน้าจอ OLED แบบขอบโค้ง ขนาด 6.6 นิ้ว FULL HD+ RAM 8 GB ROM 128 GB ดีไซน์ตัวเครื่องออกแบบมาอย่างทันสมัย ไม่ซ้ำใคร จับถนัดมือ พร้อมกล้องทั้งหมด 3 ตัว กล้อง หลัง ULTRA Y ขนาด 3 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 1 ตัว 13 ล้านพิกเซล มีSENSOR กล้อง 1 ตัว แตกต่างจาก HUAWEI รุ่นอื่น ๆ ที่มีกล้องหน้า 2 ตัว แต่ LED ของภาพดีกว่าโทรศัพท์ HUAWEI รุ่นอื่น ๆ ที่เคยออกมา 

แนะนำมือถือเล่นเกมส์ งบไม่เกิน 10,000 บาท เล่นมันส์ ไม่สะดุด 

โทรศัพท์มือถือ รุ่น POCO X3 PRO เป็น โทรศัพท์ XIOAMI มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว ความจุ RAM 8 G ROM 256 GB แบตเตอรี่ 5,160 MAH FAST SHARTING 33 w รุ่นนี้กราฟฟิคสูงสุด เฟรมเรท 60FPS เรียกได้ว่าสเปคคุ้มค่ากับราคาเพียงแค่ 6,599 บาทเท่านั้น สามารถเล่นเกมส์ได้อย่างลื่นไหล เนื่องจากมี CPU และการ์ดจอที่แรง การทัชทำได้ดีไม่มีสะดุด ระบบเสียงลำโพงคู่เพียงแค่เปิดระดับกลางเสียงก็ดังฟังชัดแบบเร้าใจสุดๆ ไม่มีความหน่วง หรือดีเลย์ 

วิธีการเลือกซื้อมือถือ

โทรศัพท์มือถือแต่ละรุ่นจะมีข้อดี และข้อเสียในการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้น วิธีการเลือกซื้อมือถือจึงต้องคำนึงถึงรูปแบบการใช้งาน หรือให้พิจารณาถึงรูปแบบการใช้งานของแต่ละคนจึงจะดีที่สุด ก่อนจะซื้อจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องศึกษาข้อมูลว่าโทรศัพท์มือถือแต่ละรุ่นมีข้อเด่นข้อด้อยเรื่องใดบ้าง ที่สำคัญจะต้องพิจารณาถึงต้นทุนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต และความเหมาะสมของราคากับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เพื่อให้ได้โทรศัพท์มือถือที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนมากที่สุด

บทสรุป

ตัดสินใจกันได้แล้วหรือยังคะว่าจะเลือกใช้โทรศัพท์รุ่นไหนดี? ถ้าจะให้ตอบว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นไหนดี คงต้องตอบว่าขึ้นอยู่กับการใช้งาน และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ดังนั้น การเลือกใช้โทรศัพท์มือถือจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องคำนึงถึงการใช้งานเป็นปัจจัยสำคัญ และโทรศัพท์ที่ดีไม่จำเป็นต้องมีราคาที่แพงเสมอไป สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาข้อมูล สเปคการใช้งาน ความคงทน อันเป็นปัจจัยสำคัญที่จำเป็นต้องตัดสินใจ ทั้งนี้ ระยะเวลาการใช้งานของโทรศัพท์มือถือจะมีอายุการใช้งานได้นานเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน และพฤติกรรมการใช้งานของแต่ละคน