คีย์บอร์ดไร้สาย

5 อันดับ คีย์บอร์ดไร้สาย แบรนด์ไหนดี

ปัจจุบัน คีย์บอร์ดไร้สาย คืออุปกรณ์สำคัญอีกอย่างหนึ่งของคอมพิวเตอร์ ซึ่งปัจจุบันหาซื้อไม่ยาก และมีตัวเลือกมากมายในท้องตลาด ซึ่งแต่ละรุ่นมีราคาและจุดเด่นแตกต่างกันออกไป แต่ปัจจุบันด้วยความสะดวกสบายของเทคโนโลยีที่ง่ายมากขึ้น ทำให้สามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์แต่ละชนิดได้ง่าย ๆ ผ่านปลายนิ้ว จนทำให้คนใช้สามารถมีข้อมูลเปรียบเทียบ เพื่อนำไปใช้สำหรับตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้น

คีย์บอร์ดไร้สาย

ทำความรู้จักกับ คีย์บอร์ดไร้สาย ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ

ทั้งนี้สำหรับ คีย์บอดร์ดไร้สาย หมายถึง อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับคอมพิวเตอร์หรือใช้สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ อาทิ สมาร์ตโฟน และแท็บเล็ต เป็นต้น ซึ่งเราจะคุ้นชินและเรียกติดปากว่า “KEYBOARD” หรือ แป้นพิมพ์ ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีรูปแบบการใช้งานแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับแนวทางการผลิตของแต่ละรุ่นและแต่ละแบรนด์ โดยการทำงานของแป้นพิมพ์ไร้สายคือ จะมีตัวนำสั่งสัญญาณซึ่งจะมาในรูปแบบของบลูทูธ หลังจากนั้นสามารถใช้งานคีย์บอร์ดโดยการเสียบ USB ซึ่งข้อดีคือเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้ผู้ใช้นั่นเอง

คีย์บอร์ดไร้สาย

5 อันดับ คีย์บอร์ด ไร้สาย ที่คนไอทีเลือกซื้อและยืนยันว่าใช้ดีจริง

สำหรับ 5 อันดับ คีย์บอดร์ดไร้สาย (KEYBORD BLUETOOTH) แบรนด์ไหนน่าใช้และเหมาะกับการใช้งานครบทุกแบบ จนเป็นที่ต้องการของผู้ใช้งานของจริง มีหลายรุ่นและหลายแบรนด์ แต่จะคัดมาเฉพาะแบรนด์และรุ่นที่น่าสนใจ และตอบโจทย์การใช้งานของทุกคนจริง ๆ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เสียเวลามาเช็กกันเลยดีกว่า “คีย์บอร์ด” รุ่นไหนน่าใช้กันบ้างดังนี้

1. MICROSOFT BLUETOOTH KEYBORAD BLACK (TH/EN)

มาเริ่มกันที่ คีย์บอดร์ดไร้สาย จากแบรนด์ ไมโครซอฟท์ โดยมีดีไซน์เรียบง่าย บางเบา และพกพาสะดวกสุด ๆ นอกจากนั้นยังมีปุ่มลัดแบบ MULTIMEDIA รวมถึงมีอีโมจิต่าง ๆ ที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น แถมยังสามารถตั้งค่าการใช้งานได้ง่ายสุด ๆ อีกด้วย โดยมีประกันความเสียหายด้วย 1 ปี ส่วนสีที่มีคือสีดำ บนแป้นจะมีตัวภาษาอังกฤษและไทย ส่วนราคาตัวนี้จะเริ่มต้นที่ 1,690 บาท เท่านั้น โดยสามารถซื้อได้ที่ร้านขายอุปกรณ์ไอทีทั่วไป

คีย์บอร์ดไร้สาย

2. LOGITECH K480 MUTI-DEVICE BLUETOOTH KEYBOARD 

ต่อกันที่อีกหนึ่งแบรนด์ยอดฮิตในกลุ่มของคนไอที โดยแบรนด์นี้ได้ชื่อว่ามีความคงทน และดีไซน์สวยมาโดยตลอด ดังนั้นจึงได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้มายาวนาน ส่วนรุ่นนี้จะมีรายละเอียดที่แตกต่างคือ สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ไอทีได้ครบทุกรูปแบบ เมื่อถูกออกแบบให้สามารถใช้งานได้ทั้งคอมพิวเตอร์, สมาร์ตโฟน และแท็บเล็ต โดยการออกแบบสุดล้ำกับการเพิ่มช่องวางโทรศัพท์และแท็บเล็ตเข้ามาด้วย ส่วนรูปร่างของคีย์บอร์ดกระชับ พกพาสะดวกรองรับภาษาไทยและอังกฤษ ในราคาเริ่มต้นที่ 1,049 บาท สี 2 สี คือดำและขาว

คีย์บอร์ด

3. XIAOMI MIIIW BLUETOOTH DUAL MODE KEYBOARD

สำหรับตัวที่ 3 ก็คือ คีย์บอดร์ดไร้สาย จาก XIAOMI ซึ่งเป็นแบรนด์ดังจากประเทศจีน ส่วนรายละเอียดของเจ้าตัวนี้มาพร้อมกับโหมดบลูทูธแบบ DUAL-MODE 4.0 และ 2.4 GHZ WIRLESS โดยรับ-ส่งสัญญาณได้ไกลถึง 10 เมตร ส่วนดีไซน์ออกแบบมาเป็นปุ่มกดกลม พิมพ์ง่าย สะดวก ส่วนระดับเสียงของปุ่มจะเบามากขึ้น โดยตอนนี้จะสามารถรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์, สมาร์ตโฟน และแท็บเล็ต โดยมี 2 สีให้เลือกนั่นก็คือ สีดำและขาว ส่วนราคาเริ่มต้นที่ 1,290 บาท ซึ่งถือว่าราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าสุด ๆ

คีย์บอร์ด

4. DELL WIRELESS KEYBOARD AND MOUSE-KM3322W

มาต่อกันที่อีกหนึ่งแบรนด์ยอดนิยมของไทยซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นแบรนด์ที่คนไอทีใช้เช่นกัน ซึ่งตัวนี้มาในรูปแบบของไร้สาย และไม่ได้มาแบบคีย์บอร์ดเดี่ยว ๆ แต่มาพร้อมกับชุดเมาส์ไร้สายด้วย ดังนั้นหากใครกำลังมองหาชุดความคุ้มค่า และสามารถใช้งานได้ถูกใจ ทนทานแนะนำว่ารุ่นนี้ตอบโจทย์ทันที โดยแป้นพิมพ์เป็นภาษาไทยและอังกฤษ มีระยะเวลาประกันยาวนานถึง 3 ปี โดยสามารถเคลมได้จากทาง DELL โดยตรง โดยสามารถใช้งานกับคอมพิวเตอร์ได้ทุกรูปแบบ ส่วนราคาเป็นมิตรกับกระเป๋าสุด ๆ เพราะอยู่ที่ 990 บาท เท่านั้น

คีย์บอร์ด

5. PHILIP WIRELESS KEYBOARD MOUSE SPT6314

ปิดท้ายกันที่แบรนด์ของ ฟิลลิป ตัวนี้มาพร้อมกับเมาส์ไร้สาย โดยมีดีไซน์สุดคลาสสิกพร้อมกับปุ่มกดทั้งหมด 104 ปุ่ม สามารถใช้งานได้ในรูปแบบของมีเดียและ NUMPAD ซึ่งเป็นการตอบสนองการใช้งานแบบสะดวกสบายไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนปุ่มกดไปมา ตัวนี้จะมีประกันการใช้งานทั้งหมด 1 ปี ด้วยกัน ส่วนความแข็งแรงและทนทานต้องยกให้แบรนด์นี้ไปได้เลย โดยสามารถรับ-ส่งสัญญาณ USB RECEIVER ได้ไกลถึง 10 เมตร รองรับการใช้งานคอมพิวเตอร์ทุกประเภท ในราคาเริ่มต้นที่ 599 บาท

คีย์บอร์ด

ทั้งนี้แม้ว่าจะชอบ คีย์บอดร์ดไร้สาย รุ่นไหนหรือแบรนด์ให้สิ่งสำคัญที่สุดนั่นก็คือ ต้องมีข้อมูลและรายละเอียดของสินค้าแต่ละชิ้นในมือ เพราะการซื้ออุปกรณ์ไอทีหนึ่งครั้งเท่ากับว่าเป็นการลงทุนเพื่อซื้อของใช้ในระยะยาว ดังนั้นผู้ใช้จะต้องศึกษาข้อมูลรอบด้าน เพื่อให้ได้สินค้าที่สอดคล้องกับการใช้งานที่แท้จริง รวมถึงการตัดสินใจซื้อสินค้าเป็นการตัดสินใจเลือกซื้อที่ถูกใจและใช้งานได้ระยะยาว ส่วนช่องทางการซื้อสินค้าในปัจจุบันมีหลากหลายช่องทางอาทิ หน้าช้อปโดยตรง หรือการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ หรือเว็บไซต์ของทางร้านไอที เป็นต้น

ufaball.bet เว็บพนันออนไลน์ เว็บตรง ฝากถอนได้ไม่มีขั้นต่ำ

Share To :

Facebook
Twitter
Pinterest
Email