ในปัจจุบันตลาดซื้อ-ขายเหรียญ คริปโต (Cryptocurrency) หรือเหรียญดิจิตอล เป็นอีกหนึ่งกระแสมาแรง และยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ราคาซื้อขายจะผันผวนตามกระแสก็ตาม แต่ถ้าพูดถึงภาพรวมแล้ว การลงทุนในนี้ยังสามารถเพิ่มความไว้ใจให้นักลงทุนมือใหม่ได้ดี อีกทั้งยังมีข้อดี คือ การลงทุนเหรียญดิจิตอลมีลุ้นทำเงินได้ไวกว่าแบบอื่น
ทำไมการลงทุนใน คริปโต ถึงน่าสนใจ
การลงทุนใน คริปโต หรือเหรียญดิจิตอล มีความน่าสนใจหลายอย่างด้วยกัน โดยมีจุดเด่น คือ การซื้อ – ขาย Crypto เนื่องจากไม่ได้มีเพียงแค่การซื้อ – ขายเหรียญเท่านั้น แต่ยังสามารถยืมเหรียญจากอีกเจ้ามาขายอีกเจ้า หรืออาจจะเรียกว่าเป็นนายหน้าก็ได้
เหรียญคริปโตมีความน่าสนใจแค่ไหน
เหรียญคริปโตในตอนนี้กำลังเป็นที่น่าลงทุน ไม่ได้ต่างจากการลงทุนในตลาดหุ้นเท่าไรนัก เพราะการเทรดหลากหลายรูปแบบ ส่งผลให้การเกร็งกำไรสามารถกำหนดได้ง่าย และคาดว่าในอนาคตการซื้อขายเหรียญดิจิตอล จะไปได้ไกลมากพอสมควร เนื่องจากตอนนี้มีหลายแพลตฟอร์มกำลังมาแรง และเป็นแหล่งการลงทุน หรือการเทรดเหรียญคริปโตยอดฮิตต่อเนื่อง
5 อันดับ เหรียญกำลังมาแรงมีดังนี้
1. บิตคอยน์ (ฺBitcoin)
ถือว่าเป็นเหรียญที่นักลงทุนคุ้นเคยกันดี โดยมีชื่อย่อ และรู้จักกันในวงการคนเทรดว่า BTC ซึ่งเป็นสกุลเงินแรกที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ อีกทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของบล็อกเชน ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าสูงสุดในโลก และถือว่าเป็นอีกหนึ่งสกุลเงินที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนสูงสุด เพราะด้วยมูลค่าของบิตคอยน์ที่หมุนเวียนในระบบซื้อ-ขายเหรียญดิจิตอลมากกว่า 17 ล้านเหรียญ ทั้งนี้สำหรับมูลค่ารวมอยู่ที่เกินครึ่งของตลาดคริปโตทั่วโลกอีกด้วย
2. อีเทอเรียม (Ethereum)
สกุลเงินที่ก่อตั้งโดย วีตาลิค บูเจริน ชาวรัสเซียน ซึ่งครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นหนึ่งในทีมงานที่ร่วมกันสร้าง บิตคอยน์ขึ้นมา ทั้งนี้สำหรับเจ้าตัวนี้จะรู้จักกันในชื่อย่อว่า “ETH” โดยจุดเด่น คือ สามารถเปิดใช้งานระบบ Smart Contract นั่นก็คือสามารถตั้งเงื่อนไขจ่ายเงินได้โดยผ่านบัตรเครดิตได้ โดยปัจจุบันเป็นสกุลเงินที่มีมูลค่าสูงมาก และสูงกว่า BTC ด้วยซ้ำ เนื่องจากฟังก์ชั่น Open Source ซึ่งทุกคนสามารถร่วมพัฒนาเหรียญสกุลนี้ได้ ทำให้การใช้งานจึงมีความหลากหลายมากกว่า
3. ริบเปิ้ล (Ripple)
ตัวนี้จะใช้ชื่อย่อว่า “XRP” โดยเกิดขึ้นจากการพัฒนาของบริษัท ริปเปิ้ล แลปส์ เมื่อปี 2018 โดยการใช้งานเหมือนเหรียญทั่วไปเกือบทั้งหมด ส่วนข้อแตกต่างที่ทำให้เจ้าตัวนี้ไม่เหมือนเหรียญอื่น ๆ คือ สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นสื่อกลางการโอนย้ายระหว่างธนาคาร รวมถึงมีลักษณะเป็นเหรียญแบบรวมศูนย์ ไม่เพียงแค่นั้นยังมีบล็อกเชนแบบ Private อีกด้วย ทำให้เหรียญนี้จะอยู่ภายใต้การควบคุม และดูแลการทำธุรกรรมทั้งหมด โดยบริษัทผู้ผลิตเท่านั้น ทั้งนี้ในปัจจุบันเจ้า “XRP” ยังเป็นหนึ่งในสกุลเหรียญที่ทางบริษัทระดับโลกอย่าง Google , Standard Chartered , Seagate และ SBI Group ให้การยอมรับ
4. ไบแนนซ์คอยน์ (Binance Coin)
เจ้าเหรียญสกุลนี้ถือว่าเป็นเหรียญสกุลใหญ่ที่สุดในการเทรด โดยจะใช้ชื่อย่อว่า BNB ซึ่งในปัจจุบันสามารถใช้เทรดในแพลตฟอร์มหลักอย่าง ไบแนนซ์ (Binance) ทั้งนี้ยังสามารถใช้จ่ายค่าธรรมเนียม รวมถึงสามารถแลกเปลี่ยน Token ได้อีกด้วย ซึ่งจุดเด่นของเหรียญดังกล่าวไม่ได้มีเพียงแค่การซื้อ-ขายเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงยังสามารถเผาเหรียญออกจากระบบ ทำให้เหรียญตัวนี้เริ่มมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อย ๆ
5. เทเทอร์ (Tether )
สกุลนี้จะรู้จักกันดีในชื่อว่า USDT โดยถูกพัฒนาขึ้นมาโดยบริษัท เทเทอร์ ลิมิเต็ด โดยมีข้อแตกต่างจากเหรียญอื่น ๆ คือสามารถเชื่อมต่อกับเงินตราที่ใช้กันตามปกติได้ ซึ่งปัจจุบันผูกกับดอลล่าสหรัฐอเมริกา (USD) ดังนั้น มูลค่าของเหรียญจะเท่ากับราคาซื้อ และขายเหรียญดอลล่า ฯ ส่งผลให้เหรียญกลายเป็นเหรียญที่มีเสถียรภาพด้านราคาสูงมาก และเหมาะกับการเป็นเหรียญที่ใช้เป็นสื่อกลางในการโอนเงินข้ามประเทศ
สำหรับทั้ง 5 เหรียญที่กล่าวถึง ถือว่าเป็นเหรียญที่กำลังมาแรง และนักลงทุนเลือกลงทุนเป็นอันดับต้น ๆ ส่วนเรื่องราคาของแต่ละเหรียญนั้นจะขึ้นลงไม่เท่ากันในแต่ละวัน หรือบางครั้งอาจจะแปรปรวนอย่างหนักภายใน 1 วันสูงมาก ดังนั้น ก่อนการลงทุนจำเป็นต้องศึกษาเหรียญต่าง ๆ อย่างละเอียด เพื่อลดโอกาสขาดทุนในแต่ละครั้ง
