Categories
รวมบทความ

6 อันดับ ปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน

ปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก

มหาสมุทรถือเป็นผลงานชิ้นเอกของโลก ซึ่งเป็นผืนผ้าใบที่อุดมไปด้วยสิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิด โดยครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 70% ของพื้นผิวโลกเป็นแหล่งกำเนิดของสิ่งมีชีวิตที่หลากหลาย รวมทั้ง ปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก สายพันธุ์ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอย่าง แพลงก์ตอน ปลาที่เล็กที่สุดในโลก จนไปถึง ปลาวาฬ ปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ 6 อันดับปลายักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ว่ามีปลาชนิดใดบ้าง รับรองว่า คุณจะต้องไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนแน่นอน

ปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับที่ 6 ปลาออร์ฟิช 

อันดับปลายักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับ 6 ปลาออร์ฟิช หรือที่คนไทยเรียกว่า ปลาพญานาค มันเป็นปลากระดูกแข็งชนิดหนึ่ง จัดเป็นปลาทะเลน้ำลึกที่อาศัยอยู่ใต้ทะเลในช่วงความลึกประมาณ 200 – 1,000 เมตร ซึ่งความลึกขนาดนี้แสงส่องลงไปแทบจะมองไม่เห็นด้วยซ้ำ ทำให้มนุษย์เรานั้นมีโอกาสพบเห็นปลาชนิดนี้น้อยมาก ๆ ปลาออร์ฟิชถูกค้นพบ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1772 โดย “ปีเตอร์ แอสคานุส” นักวิทยาศาสตร์ชาวนอร์เวย์ ด้วยความที่หน้าตาของมันคล้ายคลึงกับพญานาค สัตว์ในตำนานของประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นปลาที่แปลกประหลาด และไม่ได้มีโอกาสพบเห็นบ่อย ๆ จึงทำให้หลายคนคิดว่า เป็นพญานาคจริง ๆ 

ปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับที่ 5 ปลาหมึกโคลอสซัล 

อันดับปลายักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับ 5 ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 1925 จัดเป็นสัตว์ที่มีความลึกลับและหายากที่สุดสายพันธุ์นึง เมื่อโตเต็มวัยจะมีความยาวมากถึง 14 เมตร น้ำหนักมากถึง 750 กิโลกรัม และอาศัยอยู่ในน้ำลึกถึง 1,200 เมตร แถมยังเป็นสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลังที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย ถ้าเป็นเพศเมียจะมีน้ำหนักมากถึง 2 เท่า และบวกความยาวไปอีก 3 เมตร บางคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า นิสัยของมันเป็นนักล่าที่ค่อนข้างก้าวร้าว ไม่ว่าจะเป็นหมึกด้วยกัน หรือปลาขนาดใหญ่ พวกมันจะอาศัยอยู่แถวแอนตาร์ติกายาวจนไปถึงอเมริกาใต้ แอฟริกาใต้ และนิวซีแลนด์    

ปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับที่ 4 ปลาฉลามเมกาเมาท์ 

อันดับปลายักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับ 4 จัดเป็นปลาฉลามที่มีสายพันธุ์ที่ได้หายากและมีน้ำหนักมากถึง 1,215 กิโลกรัม โดยชื่อ เมกาเม้าท์มาจากปากของมันที่น่าทึ่ง นั่นเอง ตัวผู้จะมีขนาดเฉลี่ยประมาณ 4 เมตร ส่วนตัวเมียนั้นก็จะมีขนาดโตขึ้นมาหน่อย มีขนาดประมาณ 5 เมตร ถูกค้นพบเมื่อปี 1976 มันเป็นฉลามน้ำลึกที่มนุษย์ไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อย ๆ อีกสิ่งหนึ่งที่มนุษย์เราเข้าใจผิดเกี่ยวกับ เมกาเม้าท์ คือ ความจริงแล้วมันไม่ใช่สัตว์ที่มีความว่องไวสักเท่าไร แต่ตรงกันข้ามกลับเป็น สัตว์ที่มีเคลื่อนไหวได้ช้า เพราะมันทำความเร็วสูงสุดได้แค่ 1.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง เอง เจ้าฉลามสายพันธุ์นี้จะค่อย ๆ แหวกว่ายอย่างช้า ๆ พร้อมกับอ้าปากกว้างดูดกลืนสัตว์ทะเลเล็กเข้าไป จำพวก กุ้ง และแพลงก์ตอนกินเป็นอาหาร

ปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับที่ 3 โอเชี่ยน ซันฟิช 

อันดับปลายักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับ 3 มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Mola Mola (โมลา โมลา) เป็นปลาใหญ่ในมหาสมุทรสุดพิสดาร มีขนาดความยาว 4.2 เมตรในแนวตั้ง และ 3 เมตรในแนวนอน จัดอยู่ในประเภทปลากระดูกแข็งที่มีน้ำหนักมากที่สุดในโลก มีน้ำหนักมากถึง 2,300 กิโลกรัม ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่เพียงลำพัง พบได้ในมหาสมุทรเขตร้อนและเขตอบอุ่นทั่วโลก มีลักษณะทรงกลมแบน  มีผิวหนังสีน้ำเงินหยาบ และมีเมือกหนาเปรียบเสมือนเป็นเกราะป้องกันตัว ด้วยความที่ไม่มีหาง จึงทำให้บังคับทิศทางได้ไม่ดีเท่าที่ควร ฟันของมันเชื่อมติดกันคล้ายกับจะงอยปากจนทำให้ไม่สามารถปิดปากได้สนิท สาเหตุที่เรียกว่า โอเชี่ยน ซันฟิช (ปลาแสงอาทิตย์) ก็เพราะ นิสัยของมันชอบขึ้นมาอาบแดดอยู่เป็นประจำ

ปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับที่ 2 ปลากระเบนราหูมหาสมุทร 

อันดับปลายักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับ 2 ปลากระเบนราหูมหาสมุทร เป็นปลากระเบนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มักพบในน่านน้ำเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน เจ้าปลาตัวนี้สามารถเติบโตได้สูงสุดถึง 9 เมตร และมีน้ำหนักมากถึง 3,000 กิโลกรัม สามารถดำน้ำได้ลึกสุดถึง 1,000 เมตร โดยแบ่งออกเป็น 2 จำพวก คือ ปลากระเบนราหูมหาสมุทร และ ปลากระเบนราหูแนวปะการัง ซึ่งมีสีและขนาดที่แตกต่างกันออกไป ในอดีตพวกมันเคยหาอาหารตามพื้นทะเลมาก่อน ก่อนที่จะมีพัฒนาการตัวเองขึ้นมาให้สามารถกินแพลงก์ตอนได้ พวกมันมีชีวิตอยู่ได้ถึงประมาณ 40 ปี และใกล้จะสูญพันธุ์จากโลกนี้เต็มที เนื่องจากจำนวนประชากรได้ลดลงอย่างมากในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

ปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับที่ 1 ปลาฉลามวาฬ 

อันดับปลายักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อันดับ 1 ปลาฉลามวาฬ ถือกำเนิดเมื่อ 60 ล้านปีมาแล้ว จัดเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีหัวที่ใหญ่โตมากเมื่อเทียบกับขนาดลำตัว มีหลายคนที่เข้าใจผิดว่า ปลาฉลามวาฬนั้นเป็นปลาฉลามหรือปลาวาฬกันแน่ แท้จริงแล้วมันเป็น ปลาฉลามชนิดหนึ่ง ในบรรดาปลาฉลาม 440 ชนิดทั่วโลก สาเหตุที่ได้ชื่อว่า ฉลามวาฬ เพราะ ขนาดของมันที่ใหญ่มาก ๆ ชอบกินแพลงก์ตอนเป็นอาหาร เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดความยาว ประมาณ 12.5 เมตร และมีน้ำหนักถึง 21 ตัน กระจายพันธุ์อยู่ในน่านน้ำเขตร้อน และเขตอบอุ่นตามแนวปะการัง ที่มีความลึกไม่เกิน 700 เมตร สำหรับในประเทศไทยมีรายงานการพบฉลามวาฬในแถบฝั่งอ่าวไทย และอันดามัน

สรุป 

แม้ว่า 6 อันดับปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก จะมีขนาดใหญ่สักเพียงใด ก็ไม่น่ากลัวเท่ามนุษย์บางกลุ่มที่มีความคิดจะพยายามเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตในโลก ตั้งแต่ ปลาที่เล็กที่สุดในโลก จนไปถึง ปลาที่ใหญ่กว่าปลาวาฬ เนื่องจากปลาบางชนิดนั้นใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว หากพวกเราไม่ช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เชื่อว่า ในอนาคตอาจไม่หลงเหลือปลาขนาดใหญ่ ๆ ให้ลูกหลานได้พบเห็นแล้วก็เป็นได้

one2fives  เป็นเว็บไซต์ศูนย์ รวมจัดอันดับ ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องมาไว้เพื่อคุณ

FIVE IS REAL เว็บไซต์คุณภาพที่จะรวบรวมเทรนด์ฮิตติดชาร์จทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสมาให้คุณได้ติดตาม

Categories
รวมบทความ

พลุรักษ์โลก ไอคอนสยาม ขึ้นแท่น 1 ใน 10 Countdown Destination ของโลก 

พลุรักษ์โลก

“Happy Newyear 2024” ก้าวเข้าสู่ปี 2567 อย่างเป็นทางการ หลายสถานที่ต่างมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่กันอย่างสนุกสนาน แน่นอนสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยในการเฉลิมฉลองก็คือ การจุด พลุรักษ์โลก ซึ่งเป็นการแสดงอันเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่า ได้ก้าวเข้าสู่ปี 2567 อย่างเป็นทางการแล้ว และสิ่งที่สร้างความ Amazing ให้กับคนทั่วโลกก็คือ การแสดง พลุรักษ์โลกสุดอลังการ ที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ภายในงานมี พลุ ดอกไม้ไฟ จำนวนกว่า 50,000 ดอก สวยงามตระการตาและยาวที่สุดในประเทศไทย ถือเป็นซิกเนเจอร์ของงาน “Amazing Thailand Countdown 2024” ที่สื่อนอกยกให้เป็น 1 ใน 10 Countdown Destination ของโลกเลยก็ว่าได้ 

ประวัติความเป็นมาของ พลุรักษ์โลก

เมื่อมีการจัดงานเทศกาลใหญ่ ๆ ที่มีการจุด พลุ ดอกไม้ไฟ เกิดขึ้น มักจะมีคำถามตามมาเสมอว่า การจัดงานแบบนี้จะเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม และเพิ่มค่าฝุ่นในอากาศไหม ? แต่ปีนี้งาน “Amazing Thailand Countdown 2024” ของ ไอคอนสยาม ก็สามารถแก้ไขปัญหาจุดนี้ได้ ด้วยนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นั่นคือ พลุรักษ์โลก ที่ทำมาจากข้าวเหนียวไทย เป็นการร่วมมือกันระหว่างทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากประเทศญี่ปุ่นและทีมงานชาวไทย ภายใต้การกำกับดูแลของ ‘โอกุจิ โยชิมาซะ’ ผู้กำกับการแสดงพลุระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น เจ้าของรางวัลชนะเลิศการประกวด พลุรักษ์โลกสุดอลังการ ปี 2023 จากเทศกาลดอกไม้ไฟชินเม งานแสดงดอกไม้ไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น

พลุรักษ์โลก 2567 เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจริงไหม ? 

พลุรักษ์โลก งาน “Amazing Thailand Countdown 2024″ ที่ผู้ชมทั่วโลกต่างชื่นชมในความสวยงามและความอลังการของ พลุ ดอกไม้ไฟ ต่างจัดอันดับยกให้ติด 1 ใน 10 ของ Countdown Destination ทั่วโลกเลย มี พลุรักษ์โลกสุดอลังการ จำนวน กว่า 50,000 นัด ถูกแบ่งเป็นชุดการแสดงทั้งหมด 7 ชุด ความยาว 9 นาที รวมระยะทาง 1,400 เมตร โดยพลุทั้งหมดนี้ ทำมาจากข้าวเหนียวไทย ผสมผสานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ส่งผลให้เกิดควันจากการจุดพลุน้อยกว่าพลุปกติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ชมบริเวณโดยรอบ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างภูมิปัญหาไทยกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ให้เข้ากันได้อย่างลงตัว

จัดอันดับ 10 เมืองที่ผู้คนต้องการไปชม พลุรักษ์โลก 

ตามที่เราได้แนะนำไปช่วงแรก การแสดง พลุรักษ์โลก ในงาน “Amazing Thailand Countdown 2024” ซึ่งงานจัดที่ใจกลางเมืองกรุงเทพ ขึ้นแท่นติดท็อป 1 ใน 10 เมืองที่ผู้คนต้องการไปชม พลุ ดอกไม้ไฟ มากที่สุด ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเรียกนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวประเทศไทยได้ดีเลยทีเดียว แต่ท่านผู้ชมรู้หรือไม่ ? ต่างประเทศเองก็มีการจัดการแสดง พลุรักษ์โลกสุดอลังการ ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ด้วยเช่นกัน พูดได้ว่า ไม่แพ้งานเทศกาลที่กรุงเทพเลย มาดูกันว่า มีเมืองไหนกันบ้าง

  • อันดับ 1 นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

มีการจุดพลุดอกไม้ไฟขึ้นที่สะพานฮาร์เบอร์ และท่าเรือซิดนีย์ โอเปร่าเฮ้าส์ ซึ่งเป็นสถานที่เชิงสัญลักษณ์แสดงถึงการย่างเข้าสู่ปีใหม่ของเมืองซิดนีย์เป็นประจำทุกปี

  • อันดับ 2 กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน

มีการจุดพลุดอกไม้ไฟขึ้นที่ตึกไทเป 101 เป็นตึกที่สูงที่สุดของประเทศไต้หวัน และมีการจุดพลุดอกไม้ไฟกระจายบริเวณรอบตึก สร้างความสวยงามให้แก่ผู้ชมไม่น้อยเลยทีเดียว

  • อันดับ 3 กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย

CNN ระบุว่า กรุงเทพมหานคร ถือเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยวยามค่ำคืน เหมาะสำหรับการสังสรรค์ในช่วงปีใหม่ หากคุณเป็นคนที่หลงใหลแสง สี เสียง และความบันเทิงท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก ต้องไม่พลาดที่จะมาเที่ยวที่นี่ให้ได้

  • อันดับ 4 นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรต

ตึกเบิร์จคาลิฟา (Burj Khalifa) สหรัฐอาหรับเอมิเรต ตึกที่สูงที่สุดในโลก หนึ่งในสถานที่เชิงสัญลักษณ์ของเมืองดูไบ มีการจุดพลุดอกไม้ไฟที่สวยงามตระการตา ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมารับชมความสวยงามอยู่

  • อันดับ 5 เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้

เมืองเคปทาวน์ เป็น 1 ในเมืองที่มีการจุดดอกไม้ไฟที่อลังการที่สุดเมืองหนึ่งในแอฟริกา และยังสามารถรับประทานอาหารท้องถิ่น ไปพร้อม ๆ กับการฟังดนตรีสดได้

  • อันดับ 6 กรุงโรม ประเทศอิตาลี

มีการจุดพลุดอกไม้ไฟท่ามกลางโบราณสถานเก่าแก่กว่า 2,000 ปี

  • อันดับ 7 เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ

นักท่องเที่ยวสามารถรับชมพลุดอกไม้ไฟได้ที่บริเวณลอนดอนอาย และบิ๊กเบง 

  • อันดับ 8 เมืองริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล

มีการจุดพลุดอกไม้ไฟ บริเวณริมชายหาดโคปาคาบาน่า

  • อันดับ 9 เมืองนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา

สถานที่รับชมพลุดอกไม้ไฟที่สวยงามและอลังการ นั่นก็คือ จัตุรัสไทม์สแควร์ ท่ามกลางผู้คนจำนวนมากมีการปล่อยลูกบอลคริสตัลขนาดใหญ่ลงจากยอดเสาบนตึก วันไทม์สแควร์ ซึ่งเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติสืบเนื่องกันมาหลายต่อหลายปี

  • อันดับ 10 เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

มีการจุดพลุดอกไม้ไฟรอบ ๆ เมือง ภายในงานอัดแน่นไปด้วยผู้คนที่มาจากทั่วทุกสารทิศ

สำนักข่าว CNN ยกย่องพลุรักษ์โลก งาน “Amazing Thailand Countdown 2024” ที่จัดขึ้นที่ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต้องการไปรับชมการแสดง พลุ ดอกไม้ไฟ เป็นอันดับ 3 ของโลก ถือเป็นหน้าตาเป็นตาให้กับคนไทยเลยก็ว่าได้ เพราะกรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวคิดถึงบรรยากาศความบันเทิงในยามค่ำคืนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ที่สำคัญ พลุรักษ์โลกสุดอลังการ  ที่จัดมาแสดงยังคำนึงถึงการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

one2fives  เป็นเว็บไซต์ศูนย์ รวมจัดอันดับ ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องมาไว้เพื่อคุณ

FIVE IS REAL เว็บไซต์คุณภาพที่จะรวบรวมเทรนด์ฮิตติดชาร์จทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสมาให้คุณได้ติดตาม

Categories
รวมบทความ

จัดอันดับ 5 ราศี คนดวงดีปี 2567 

คนดวงดีปี 2567

หมอช้าง  ทศพร ศรีตุลา ซินแสไฮโซชื่อดังของเมืองไทย เผย 5 อันดับราศรี คนดวงดีปี 2567 ต้อนรับศักราชใหม่ สำหรับใครที่มีแพลนอยากลงทุนประกอบธุรกิจ หรือกำลังมองหาอาชีพใหม่อยู่ แนะนำให้มาลองอ่าน ราศีดวงดีปี 2567 ของหมอช้างดู เผื่ออาจเป็นตัวช่วยประกอบการตัดสินใจของคุณได้ ถ้าคุณอยากให้ต้นปีของคุณ เริ่มต้นด้วยดี มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ทำอะไรก็สำเร็จราบรื่น ไม่ติดขัด ไม่ขัดสน มันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายที่คุณจะเปิดใจอ่าน ดวงปี 2567 หมอช้าง มาดูกันเลยดีกว่าว่า ราศรีไหนใครจะเป็นผู้โชคดีกันบ้าง  

มาทำความรู้จักกับ ราศี คนดวงดีปี 2567 กัน 

ก่อนที่จะไปดูการจัดอันดับ 5 ราศรี คนดวงดีปี 2567 อยากให้สายมูทุกท่านมาทำความรู้จักกับ ราศีดวงดีปี 2567 กันก่อน ซึ่งการนับราศี จะนับตามช่วงเวลาโคจรของดวงอาทิตย์ ซึ่งจะเกิดขึ้นทุก ๆ 30 วันหรือ 1 เดือน นั่นหมายความว่า ราศีของเมืองไทยจะมีด้วยกัน 12 ราศี ซึ่งเท่ากับจำนวนเดือน 12 เดือน นั่นเอง 

  • ผู้ที่เกิดราศีธนู : ตั้งแต่ 16 ธันวาคม 14 มกราคม
  • ผู้ที่เกิดราศีมังกร : ตั้งแต่ 15 มกราคม 12 กุมภาพันธ์
  • ผู้ที่เกิดราศีกุมภ์ : ตั้งแต่ 13 กุมภาพันธ์ 14 มีนาคม
  • ผู้ที่เกิดราศีมีน : ตั้งแต่ 15 มีนาคม 12 เมษายน
  • ผู้ที่เกิดราศีเมษ : ตั้งแต่ 13 เมษายน ถึง 14 พฤษภาคม
  • ผู้ที่เกิดราศีพฤษก : ตั้งแต่ 15 พฤษภาคม 14 มิถุนายน
  • ผู้ที่เกิดราศีเมถุน : ตั้งแต่ 15 มิถุนายน 14 กรกฎาคม
  • ผู้ที่เกิดราศีกรกฎ : ตั้งแต่ 15 กรกฎาคม 15 สิงหาคม
  • ผู้ที่เกิดราศีสิงห์ : ตั้งแต่ 16 สิงหาคม 16 กันยายน
  • ผู้ที่เกิดราศีกันย์ : ตั้งแต่ 17 กันยายน 16 ตุลาคม
  • ผู้ที่เกิดราศีตุลย์ : ตั้งแต่ 17 ตุลาคม 15 พฤศจิกายน
  • ผู้ที่เกิดราศีพิจิก : ตั้งแต่ 16 พฤศจิกายน 15 ธันวาคม
คนดวงดีปี 2567

เตรียมตัวรับความปังกับ 5 อันดับราศี คนดวงดีปี 2567 กัน 

หมอช้าง เผยคำทำนาย คนดวงดีปี 2567 ว่า คนที่เกิดราศีต่อไปนี้ คือ คนที่ดวงดีที่สุด มีเงินทองมั่งคั่ง การงานและการเงินมีความมั่งคงสูง ราศีดวงดีปี 2567 ได้แก่

  • อันดับ 1 ราศีพิจิก (17 พ.ย. – 15 ธ.ค.)

ดวง ราศี พิจิก 2567 เป็นปีที่ได้โอกาสในการทำงานมากขึ้น มีผู้ใหญ่ใจดีคอยหนุนหลังอยู่ ถ้าประกอบธุรกิจจะได้หุ้นส่วนพาร์ทเนอร์ใหม่ ๆ เป็นปีที่มีเงินทองมากองอยู่ตรงหน้า มีโอกาสรับโชคก้อนใหญ่ ส่วนเรื่องความรักมีเกณฑ์สมหวัง ได้คู่ครองที่ถูกใจ โดยรวมแล้วจัดว่าเป็นราศีที่ดีมาก ๆ 

  • อันดับ 2 ราศีกุมภ์ (13 ก.พ. – 14 มี.ค.)

งานที่เป็นอาชีพอิสระ (ฟรีแลนซ์) จะได้รับข่าวดีมากเป็นพิเศษ มีความก้าวหน้าสูง มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในหมู่คณะ เป็นปีที่มีเรื่องเสียเงินได้ไม่หยุดหย่อน แต่ในความโชคร้ายคุณก็จะหาเงินได้มากเช่นกัน แต่ให้ระมัดระวังในเรื่องการถูกฉ้อโกง

  • อันดับ 3 ราศีเมษ (14 เม.ย. – 14 พ.ค.)

ต้นปีจะเป็นนาทีทองในเรื่องงาน คิดจะทำอะไรต้องรีบลงมือทำ เป็นช่วงที่ดวงมีตัวช่วยคอยผลักดันสู่ความสำเร็จ การเงินโดยรวม มีเกณฑ์รับทรัพย์ก้อนใหญ่ มีความมั่งคั่ง ร่ำรวยมากกว่าในอดีต

  • อันดับ 4 ราศีกันย์ (17 ก.ย. – 17 ต.ค.)

เป็นปีที่พบเจอแสงสว่างคอยส่องนำทาง อุปสรรคที่เคยเกิดขึ้นในอดีตจะพลิกไปในทางที่สดใส ดวงการเงินเปิดทาง มีเกณฑ์รับเงินเป็นกอบเป็นกำ แต่อาจปวดหัวเรื่องปัญหาคนใกล้ตัวอยู่เรื่อย ๆ

  • อันดับ 5 ราศีสิงห์ (17 ส.ค. – 16 ก.ย.)

เป็นปีที่ชีวิตต้องพบเจอกับการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงจากที่ตั้งใจไว้ เพื่อก้าวไปสู่สิ่งที่ตั้งเป้าหมายไว้ ในเรื่องเงินทองมีเกณฑ์หาเงินได้มากขึ้น แต่ก็มีเรื่องให้เสียเงินมากขึ้นเช่นกัน

หมอช้าง เผยคำทำนาย คนดวงดีปี 2567 ต้องระวังอะไรกันบ้าง ? 

ตามหลักโหราศาสตร์และฮวงจุ้ย ดวงปี 2567 หมอช้าง กล่าวว่า วงรอบของการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นทุก ๆ 20 ปี ในปี 2566 เป็นยุคที่ 8 ซึ่งครบวงรอบ 20 ปีพอดี เมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2567 จึงเริ่มเข้าสู่ยุคที่ 9 และจะอยู่ในยุคนี้ยาวไปอีก 20 ปี โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่เสมอ ซึ่งในปัจจุบันก็เริ่มมองเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้นแล้วในหลาย ๆ เรื่อง อาทิ การนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในแวดวงธุรกิจ การทำธุรกรรมการเงินผ่านแอพธนาคาร โดยไม่ต้องใช้เงินสดอีกต่อไป ถ้าธุรกิจไหนที่ไม่ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคนี้ ก็คงยากที่จะเอาชีวิตรอดต่อไปได้ ฉะนั้น นอกจาก ดูดวง วันเดือนปีเกิด แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องระวังคือ การลงทุนที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

สำหรับ คนดวงดีปี 2567 ที่ชื่นชอบการลงทุน เรามีทางเลือกมาแนะนำ ว่า ราศีดวงดีปี 2567 ราศีไหนเหมาะกับการลงทุนชนิดใด สำหรับราศีที่โดดเด่นเรื่องหุ้น คือ ราศีมีน (15 มี.ค.-13 เม.ย.) เพราะพระราหูย้ายเข้ามา หรือไม่ก็ลงทุนเกี่ยวกับกองทุนต่างประเทศ เทคโนโลยี ซึ่งคุณมีโอกาสเป็นคนที่โชคดีได้ ส่วน ราศีกรกฎ (17 ก.ค.-16 ส.ค.) เป็นคนโชคดี ซื้อหุ้นถูกตัว จับสลากก็ได้ เป็นคนดวงดี รับความเสี่ยงได้มากขึ้น ทำให้โอกาสการลงทุนดีขึ้น ขณะที่ราศีคนรวย คือ ดวง ราศี พิจิก 2567 (17 พ.ย.-15 ธ.ค.) มีเงินทองมากองอยู่ตรงหน้า จึงเหมาะกับการลงทุนในโครงการ คู่สัญญา และหุ้นส่วนที่งอกเงยเข้ามา

one2fives  เป็นเว็บไซต์ศูนย์ รวมจัดอันดับ ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องมาไว้เพื่อคุณ

FIVE IS REAL เว็บไซต์คุณภาพที่จะรวบรวมเทรนด์ฮิตติดชาร์จทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสมาให้คุณได้ติดตาม

Categories
รวมบทความ

เปิด 5 อันดับ ประเทศที่จนที่สุดในเอเชีย ในปี 2023 

ประเทศที่จนที่สุดในเอเชีย

วันนี้เราจะมาเผยข้อมูล 5 อันดับ ประเทศที่จนที่สุดในเอเชีย ก่อนอื่นต้องบอกทวีปเอเชีย มีพื้นที่กว่า 44,579,000 ตารางกิโลเมตร หรือ เป็น 30% ของแผ่นดินของทั่วโลก ถือว่าใหญ่และกว้างมากๆเลยทีเดียวค่ะ  แถมในพื้นที่เอเชียของเรานั้น มีประเทศมากถึง 48 ประเทศด้วยกัน 

และในวันนี้ เรานำความรู้ดีดีมาฝากเพื่อนๆ สำหรับข้อมูลในเรื่อง 5 อันดับประเทศ ในทวีปเอเชียที่จนที่สุด จะมีประเทศไหนบ้างนั้น ไปดูกันเลย  

ประเทศที่จนที่สุดในเอเชีย

1.ประเทศอัฟกานิสถาน 

ถ้าถามว่าประเทศอะไรที่จนที่สุด อันดับ1 เลยคงหนีไม่พ้น ประเทศอัฟกานิสถาน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะประเทศนี้ ดันไม่มีทางออกสู่ทะเลซึ่งทำการค้าลำบาก แถมยังมีประชากรประมาณ 40 ล้านคน เศษฐกิจส่วนใหญ่มีพื้นฐานมาจากเกษตรกรรม และยังมีที่ดินเพียงน้อยนิดที่สามารถใช้ประโยชน์และเพื่อสร้างรายได้  ก่อนหน้านี้ประเทศอัฟกานิสถาน ต้องทนทุกทรมารกับการเป็นประเทศที่เสียหายจากสงครามมานานหลายทศวรรษ 

และ ในในปี 2021  ได้เกิดเหตุการช็อคโลกอีกครั้ง เมื่อกลุ่มตาลีบันโค่นล้มรัฐบาล และยังคงเกิดการต่อสู้จนปัจจุบัน จึงไม่น่าแปลกใจเลย ที่ประเทศอัฟกานิสถานยังคงต้องเป็น ประเทศที่จนที่สุดในเอเชีย 2567และไม่สามารถนำพาบ้านเมืองและเศรษฐกิจ เติบโตไปในทิศทางที่ดีได้แบบรวดเร็ว ได้เลย 

ประเทศที่จนที่สุดในเอเชีย

2.เกาหลีเหนือ 

เกาหลีเหนือ เป็นประเทศในเอเชียตะวันออก ตั้งอยู่ทางเหนือของคาบสมุทรเกาหลีทิศเหนือ มีเมืองหลวงที่ชื่อ กรุงเปียงยาง เกาหลีเหนือนั้นถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ของความยากจน เนื่องจากประชาชนทั่วไป มีรายได้น้อยกว่า 15 เหรีญ ต่อ สัปดาห์เท่านั้นเอง หรือคิดเป็นเงินไทยก็ ประมาณ 500 กว่าบาท 

ซึ่งเรียกได้ว่าแตกต่างคนละขั้วกับ เกาหลีใต้ เลยค่ะ ที่ถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจนวัตกรรมอันดับ 1 ของโลกเรียกได้ว่าเกือบจะได้เป็นประเทศที่รวยที่สุดในเอเชียเลยก็ว่าได้ ซึ่งความย่ำแย่ของเศษฐกิจของเกาหลีเหนือนี้ จึงทำให้ประชาชนของที่นี่พยายามหารายได้จากหนทางอื่นๆ และนั่นทำให้ประชากรคนอื่นๆหารายได้จากธุรกิจสีเทากันมากขึ้นนั่นเอง 

ประเทศที่จนที่สุดในเอเชีย

3. ประเทศเยเมน 

เยเมนเป็นประเทศในคาบสมุทรอาหรับ ถึงแม้ว่าเยเมนจะมีเพื่อนบ้านเป็น ประเทศที่รวยที่สุดในเอเชีย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ประเทศเยเมนร่ำรวยขึ้นมา เพราะเนื่องด้วยการโกงกินภายในแบบเปิดเผยในภาคเอกชน ซึ่งนั้นทำให้ส่งผลช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยแบบมากจนเกินไป แถมการเมืองยังคงมีความรุนแรงมากขึ้นส่งผลให้การเมืองและเศรษฐกิจของประเทศเยเมน ไม่มั่นคงอีกด้วย 

4. ประเทศทาจิกิสถาน 

ตั้งอยู่ทางตอนใต้บริเวณเอเชียกลาง มีประชากรประมาณ 7.8 ล้านคน พื้นที่เป็นเทือกเขาสูง จึงทำให้ภูมิอากาศของประเทศทาจิกิสถานขึ้นและลงแบบสุด หากร้อนจะร้อนจัด หากหนาวก็จะหนาวมากเช่นเดียวกัน ขอบอกเลยว่าประเทศทาจิกิสถาน  เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีรายได้ต่อหัวของประขากรที่ต่ำที่สุด แถมยังมีความเป็นอยู่ที่ตำกว่ามาตรฐาน เน้นการทำเกษตร ถ่านหินส่วนใหญ่ แถมระบบชลประทานที่ล่าสมัย ทำให้การเติบโตในด้านเศรษฐกิจเป็นไปได้ยาก 

แต่เมื่อปี 2552 ประเทศทาจิกิสถาน  ได้ทำสัญญากู้เงินจาก International Monetary Funds เพื่อการแก้ไขปัญหาความยากจน และนำมาช่วยการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจดังนั้นก็ต้องเอาใจช่วยและคอยติดตามสถานการณ์ ประเทศทาจิกิสถาน กันต่อไปค่ะ

5.สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย 

เป็นประเทศในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ มีกรุงดามัสกัส เมืองหลวง ขอบอกเลยว่าเป็นนครที่เรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วยค่ะ โดยภูมิทัศน์จะเป็นเทือกเขาสูงและมีพื้นที่ทะเลทราย ประชากรของสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย 

ต้องบอกเลยว่าอยู่ต่ำกว่าคำว่ายากจน การบริโภคของประชากรต้องอาศัยแบบอดๆอยากๆ ด้วยเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อ และปัญหาการว่างงานเนื่องจากธุรกิจอุตสาหกรรมที่ต้องปิดตัวลง และทำให้ส่งผลต่อความมั่นคงของเศรษฐกิจเป็นอย่างมากอีกด้วย จึงทำให้ประเทศสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย ยากที่จะเป็นประเทศที่รวยที่สุดในโลก

สรุป

บอกเลยว่าข้อมูลที่เรานำมาฝากเพื่อนๆนี้ เรานำตัวเลขทั้งหมด คำนวณาอ้างอิงมาจาก gpd ของรายได้แต่ละประเทศในช่วงเวลานี้ และในครั้งหน้าเราจะขอนำเสนอ ในเรื่องของ ประเทศที่จนที่สุดในยุโรป ฝากเพื่อนๆรอติดตามกันด้วยนะคะ 

one2fives  เป็นเว็บไซต์ศูนย์ รวมจัดอันดับ ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องมาไว้เพื่อคุณ

FIVE IS REAL เว็บไซต์คุณภาพที่จะรวบรวมเทรนด์ฮิตติดชาร์จทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสมาให้คุณได้ติดตาม

Categories
รวมบทความ

นักสนุกเกอร์ไทย ก้าวไกลไประดับโลก และ เปิด 10 อันดับ นักสนุกเกอร์ระดับโลก ปีล่าสุด

นักสนุกเกอร์ระดับโลก

การแข่งขัน European Masters 2023 ครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ นักสนุกเกอร์ระดับโลก ต่างรอคอย เพื่อที่จะประชันฝีมือ และ ความสามารถแบบไม่มีใครยอมใคร และในโอกาสครั้งนี้การแข่งขันในรายการ European Masters 2023 นับเป็นอีกหนึ่งโอกาส ที่รวบรวมเหล่านักสนุกเกอร์ระดับโลก ที่มีชื่อเสียงและนักแข่งที่มีประสบการณ์มากมายมารวมตัวกัน และในวันนี้เรายังนำเสนอ 10 อันดับนักสนุ๊กเกอร์ระดับโลก ให้แฟนพันแท้สนุ๊กได้ชมกันด้วยค่ะ 

นักสนุกเกอร์ไทย ก้าวไกลไประดับโลก 

และที่น่าประทับใจที่สุด ก็คงจะเป็น นักสนุกเกอร์ไทย ทั้ง 5 คนที่ได้เข้าคัดเลือกในเกมการแข่งขันนี้ด้วยเหมือนกัน และจะดวลกันที่ English Institute of Sport เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งถือว่าได้เข้าร่วมในครั้งนี้ ได้สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยเป็นอย่างมากอีกด้วย  และอนาคตนักสนุกเกอร์ อันดับ 1 ของไทย จะได้ติดอันดับนักสนุกเกอร์ระดับโลก 2024 กันบ้างไหม ต้องคอยเป็นกำลังใจนักกีฬาของเรากันด้วยนะคะ 

นักสนุกเกอร์ระดับโลก

เปิดสกอร์ 10 อันดับนัก สนุ๊กเกอร์ระดับโลก พร้อมอัพเดตคะแนนล่าสุด ปี 2023 

และในวันนี้ เราขอเปิดโผลคะแนน 10 อันดับนักสนุ๊กเกอร์ระดับโลก มาพร้อมสถิติล่าสุด จากการแข่งขัน European Masters 2023 ว่าจะมีใครบ้างไปดูกันเลย 

อันดับที่ 1 

รอนนี โอซุลลิแวน “Ronnie O’Sullivan” จากประเทศ  England มีคะแนนสะสม 886,000 คะแนน  เรียกได้ว่าเป็น นักสนุกเกอร์ระดับโลก ที่ยังคงรักษาสถิติของตัวเองได้ดีอย่างต่อเนื่อง

อันดับที่ 2 

ลูกา เบรเซล “Luca Brecel” จากประเทศ Belgium มีคะแนนสะสมถึง 876,500 คะแนน  เรียกได้ว่าเป็น นักสนุกเกอร์ระดับโลก อีกคนนึง ชาวเบลเยียม ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีแววมากที่สุดในพรสวรรค์ด้านสนุกเกอร์ และยังคงต้องติดตามต่อไปว่า จะสามารถทำคะแนนแซงอันดับ 1 และขึ้นมาเป็น สุดยอดนักสนุกเกอร์ระดับโลก 2024 ได้หรือไม่ 

อันดับที่ 3  

มาร์ค อัลเลน “Mark Allen” นักสนุกเกอร์ระดับโลก  จากประเทศ Northern Ireland และยังมีคะแนนสะสมถึง 860,500 คะแนน และโดยก่อนหน้านี้ มาร์ค อัลเล เคยเอาชนะ หมู ปากน้ำ นักสนุกเกอร์ อันดับ 1 ของไทย ในรอบรองชนะเลิศการแข่งขันสนุกเกอร์เวิลด์กรังด์ปรีซ์ อีกด้วย 

อันดับที่ 4 

จัดด์ ทรัมป์ “Judd Trump” นักสนุกเกอร์ระดับโลก จากประเทศ England ที่ฝีมือไม่ธรรมดา เคยคว้าแชทมป์มาแล้ว 3 รายการติด มีคะแนนสะสมอยู่ที่ 556,000 คะแนน 

อันดับที่ 5 

มาร์คเซลบี “Mark Selby” นักสนุกเกอร์ระดับโลก จากประเทศ England มีคะแนนสะสม 549,50คะแนน

อันดับที่ 6 

 นีล รอเบิร์ตสัน “Neil Robertson” นักสนุกเกอร์ระดับโลก ฉายาคือ เทพเจ้าสายฟ้าแห่งวงการสนุ๊กเกอร์ จากประเทศ Australia มีคะแนนสะสม 542,000 คะแนน

อันดับที่ 7 

ฌอน เมอร์ฟี่ “Shaun Murphy” นักสนุกเกอร์ระดับโลก จากประเทศ England มีคะแนนสะสม 445,500 คะแนน

อันดับที่ 8

 ไคเรน วิลสัน “Kyren Wilson” นักสนุกเกอร์ระดับโลก หรืออีกชื่อหนึ่งคือ “ เดอะวอริเออร์ ” ฉายาในวงการสนุ๊กเกอร์ นักสอยคิงชาวอังกฤษ วัย 27 ปี  และหลังจบเกมการแข่งขันนี้ มีคะแนนสะสมไปถึง427,000 คะแนน

อันดับที่ 9 

จอห์น ฮิกกินส์ “John Higgins”  นักสนุกเกอร์ระดับโลก จากประเทศ Scotland มีคะแนนสะสม 398,500 คะแนน และได้เคยเข้าร่วมประชันฝีมือกับ หมู ปากน้ำ นักสนุกเกอร์ อันดับ 1 ของไทย  อีกด้วย 

อันดับที่ 10 

มาร์ก เจมส์ วิลเลียมส์ “Mark J Williams”  นักสนุกเกอร์ระดับโลก จากประเทศ  Wales ที่ได้รับฉายาว่านักปั้นมือยาว ซึ่งเรียกได้ว่ามีลักษณะและรูปแบบการเล่นแบบเฉพาะตัว มีคะแนนสะสม 391,000 คะแนน

นักสนุกเกอร์ระดับโลก

และนี่คือ โผลคะแนน 10 อันดับนักสนุ๊กเกอร์ระดับโลก หลังจบรายการ English Institute of Sport 2023 รายการแข่งขันระบบดับ ที่หากใครคือ นักสนุกเกอร์ระดับโลก จะต้องไม่พลาดการแข่งขั้นนี้แน่นอน และในปี 2024 นี้ใครจะได้เป็น นักสนุกเกอร์ระดับโลก 2024 คงต้องคอยลุ้นกันด้วยนะคะ 

ส่งกำลังใจ รอนักสนุกเกอร์ไทยก้าวไกลสู่นักสนุกเกอร์ระดับโลก

การพัฒนากีฬาสนุกเกอร์ในประเทศไทยในปี 2023 นี้ ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และประเทศของเรายังมี นักสนุกเกอร์ไทย ที่เก่งและมีประสบการณ์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทุกปี ที่กำลังเติบโตและได้ประลองฝีมือในเวทีโลกบ้างแล้ว  แถมภาครัฐและเอกชนก็ได้ส่งเสริมให้กีฬาสนุกเกอร์ไทยก้าวทันโลกมากขึ้น และพัฒนานักสนุกเกอร์ อันดับ 1 ของไทย เติบโตไปเพื่อเป็นนักสนุกเกอร์ระดับโลกในอนาคต อย่างไรก็ตามฝากพี่น้องประชาชน ช่วยส่งแรงใจเพื่อให้กำลังใจนักกีฬาของเราสู่แชมป์โลกและเป็น นักสนุกเกอร์ระดับโลก 2024 ให้ได้โดยเร็ว ด้วยนะคะ 

one2fives  เป็นเว็บไซต์ศูนย์ รวมจัดอันดับ ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องมาไว้เพื่อคุณ

FIVE IS REAL เว็บไซต์คุณภาพที่จะรวบรวมเทรนด์ฮิตติดชาร์จทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสมาให้คุณได้ติดตาม

Categories
รวมบทความ

รวม 5 อันดับ รองเท้าแตะราคาแพง ใส่สบายดีไซน์สวย

รองเท้าแตะราคาแพง

รองเท้าแตะราคาแพง ในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ มีดีไซน์ความสวยงามอีกทั้งมีวัสดุที่ใช้ทำรองเท้าจากต่างกันเป็นปัจจัยที่ทำให้รองเท้ามีความหลากหลายของราคาส่ วนในเรื่องของดีไซน์แบรนด์ดังๆก็มีการทำรองเท้าออกมาหลากหลายรูปแบบทั้งใส่สวยงาม และบางยี่ห้อเป็นรองเท้าใส่ลำลองที่เน้นใส่สบายซึ่งมีหลากหลายดีไซน์ให้เลือกสวมใส่ตรงตามจุดประสงค์การใช้งาน ซึ่งรองเท้าก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทุกคนจะต้องมี

สุดยอด 5 อันดับ รองเท้าแตะราคาแพง ยอดนิยมปี 2023

เผยสุดยอดรองเท้าแตะราคาแพงที่รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้ซึ่งถือว่ามีราคาแพงยิ่งกว่ารองเท้าผ้าใบ Nike Jordan ซึ่งมีคนกล่าวกระทบว่ารองเท้าแตะนั้นไม่สมควรใส่เดินออกนอกบ้านทั้งที่ในความเป็นจริงในปัจจุบันการแต่งตัวให้ตามกาลเทศะหรือสไตล์การแต่งตัวในแต่ละคน ซึ่งรองเท้าแตะบางครั้งก็สามารถส่งเสริมบุคลิกได้เช่นกันถ้าเเลือกสวมใส่รองเท้าให้ตรงตามสไตล์ของการแต่งกายและการละเทศะก็ทำให้เรามีสไตล์และเสริมบุคลิกที่ดีขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งในปัจจุบันนี้มีสุดยอดรองเท้าแตะราคาแพงที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในปัจจุบันดังนี้

รองเท้าแตะราคาแพง

1: Hermes Sandal

มีราคาตั้งแต่ 19,830 บาท ไปจนถึง 37,000 บาทถึงยี่ห้อ hermes ถือว่าเป็นluxury brand ระดับ hi end ที่ครองใจผู้หญิงและได้เปิดผลิตภัณฑ์รองเท้าแตะซึ่งถือว่าเป็นรองเท้าแตะแบรนด์ ผู้หญิงยอดนิยมแต่รองเท้าแตะของ hermes นี้ก็สามารถใส่ได้ทั้งชายและหญิงซึ่งทำมาจากวัสดุหนังแกะที่ใส่นุ่มและเป็นการเย็บมือทำให้รองเท้ามีความคงทนซึ่งสนับสนุนราคาที่ 5 หลักแต่อายุการใช้งานของยี่ห้อนี้ก็ไม่ใช่มีแค่ปีเดียวหรือตกยุคแฟชั่นประกอบกับดีไซน์ที่มีความเรียบหรูทำให้สามารถใช้งานได้ทุกยุคมีความอมตะอีกทั้งถ้าไใส่คู่กับเท้าเรียวๆสวยๆก็ยิ่งส่งเสริมบุคลิกและสไตล์การแต่งตัวให้มีความเท่ได้ไม่แพ้รองเท้าหุ้มส้นเลยทีเดียว

2: Valentino Garavani VLTN Slides 9,100 บาท

ถือว่าเป็นแบรนด์แฟชั่นอมตะอีกยี่ห้อหนึ่งที่ทำผลิตภัณฑ์รองเท้าแตะออกมาได้น่าสนใจซึ่งตัวแปลงเองไม่ใช่มีความคลาสสิคแต่ก็มีความเป็น street wear อยู่ในตัวซึ่งเห็นได้จากการดีไซน์ต่างๆรวมถึงรองเท้าแตะนี้ทางแบรนด์ valentino ได้เลือกใช้วัสดุจากยางที่มีความนุ่มและสกรีนลายเป็นชื่อแบรนด์ที่มีสีสันที่ดูสนุกสนานจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่รองเท้ายี่ห้อนี้ได้รับความนิยมเพราะมีดีไซน์ที่สวมใส่ได้ง่ายแม้ว่าเป็นการเลือกใช้พัสดุที่ทำรองเท้ามาจากยางเหมือนรองเท้าแตะยี่ห้ออื่นๆทั่วไป แต่ระดับรองเท้าแตะนุ่มๆ แบรนด์ valentino นี้ก็มีการศึกษาว่าควรใช้ยางระดับไหนที่จะทำให้มีความทนทานรองเท้าจึงไม่สึกง่ายและมีความนุ่มสบายแก่ผู้สวมใส่ถือว่าเป็นรองเท้าแตะแบรนด์ ผู้ชาย รวมถึงผู้หญิงก็ใส่ได้ที่มีราคาแพงที่รับความนิยมในปัจจุบัน

รองเท้าแตะราคาแพง

3: Gucci leather horsebit slipper 25,000 บาท

อีกหนึ่งยี่ห้อสัญชาติอิตาลีที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานได้รับการปรับปรุงแบรนด์ใหม่ให้มีความน่าสนใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ซึ่งรองเท้าแตะราคาแพงยี่ห้อนี้ทำมาจากวัสดุหนังลูกวัวที่ทั้งนิ่งแต่มีความหรูหราในทีทำให้ดูเหมือนกับการใส่รองเท้าหุ้มส้ทรงผู้ชายแต่เปิดทางด้านส้นเท้าทำให้สวมใส่ง่ายและมีความสบายและรูปแบบนี้ได้รับความนิยมพี่สวมใส่แล้วมีสไตล์ใส่แบบเท่ๆแต่ก็ให้ลุกความสบายๆเหมือนกันจึงสามารถใส่ไปทั้งทำงานและใส่ได้ในวันพักผ่อนที่สร้างลุคเท่ๆแต่ดูสบายๆให้ผู้สวมใส่

4: Louis Vuitton Lock It Flat Mule 28,000 บาท

แบรนด์ดังยี่ห้อ Louis Vuitton ไม่เพียงแต่กระเป๋าเท่านั้นที่ได้รับความนิยมรองเท้ายี่ห้อนี้ก็ได้รับความนิยมในหมู่ผู้หญิงเช่นกันซึ่งมีทั้งรองเท้าสวมใส่หลากหลายโอกาสรวมถึงรองเท้าแตะซึ่งถือว่าเป็นรองเท้าแตะยอดนิยมผู้หญิงที่มีคนใส่อย่างเช่นรุ่นที่กล่าวมาข้างต้นนี้ด้วยความรับความนิยมเพราะสวมใส่สบายอีกทั้งมีใส่แล้วบ่งบอกถึงฐานะ เพราะเชื่อเหลือเกินว่ายี่ห้อนี้เป็นแบรนด์เนมอันดับต้นๆที่ใครๆก็รู้จักดีโดยรองเท้าสามารถใส่ทั้งลำลองและกึ่งทางการได้อย่างไม่เคอะเขินจึงทำให้เป็นรองเท้าแตะแบรนด์ ผู้หญิงราคาแพงที่มีความน่าสนใจไม่แพ้แบรนด์อื่น

รองเท้าแตะราคาแพง

5: Dior DWAY SLIDE 23,000 บาท

แบรนด์เนมสัญชาติฝรั่งเศสดังที่มีชื่อเสียงและมีประวัติความเป็นมายาวนานส่งต่อมาจากหลายยุคซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่และได้เปิดไลน์การผลิตผลิตภัณฑ์รองเท้าแตะราคาแพง ที่ใส่แป๊บเดียวก็รู้ทันทีว่ามาจากยี่ห้อไหน ซึ่งรูปแบบรองเท้านี้เป็นรูปแบบรองเท้าผู้หญิงและมีการพิมพ์ชื่อแบรนด์ Christian Dior ที่ด้านบนรองเท้าและมีลายโมโนแกรมของยี่ห้อที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ซึ่งมีหลายสีให้เลือกทั้งสีน้ำเงิน สีเทา สีดำซึ่งผู้สวมใส่สามารถเลือกใส่ได้ตามความเหมาะสมและผลิตมาจากหนังวัวฟอกทำให้มีความนุ่มอีกทั้งยังมีความคงทนไม่แพ้ยี่ห้ออื่น เพราะเป็นการเย็บที่เป็นเอกลักษณ์ของยี่ห้อที่มีความประณีตและทนทาน รวมถึงยังเป็นแบรนด์ที่มีช็อปในประเทศไทยและมีบริการทางการขายที่ไม่แพ้เลยแม้ว่าเป็นแบรนด์ที่มีราคาแพงแต่ก็คุ้มค่ากับการจ่ายเลยทีเดียวทั้งการใช้งานไลฟ์สไตล์และการบริการลูกค้า

สรุปเรื่องรองเท้าแตะ

รองเท้าแตะในสมัยนี้สามารถใส่ได้หลากหลายกาละเทศะ ไม่จำเป็นต้องใส่ในวันพักผ่อนเพียงอย่างเดียว เพียงแค่แต่งกายให้ถูกต้องกาละเทศะนั้นๆ ก็จะทำให้ท่านเป็นคนมีสไตล์ซึ่งรองเท้าแตะราคาแพงเหล่านี้ก็ถือว่าส่งเสริมบุคลิกผู้ใส่ และนอกจากนี้รองเท้าแตะอย่างยี่ห้อนันยางหรือช้างดาวซึ่งได้รับความนิยมอย่างยาวนานซึ่งเหมาะสมสำหรับการใส่ในวันสบายที่เป็นรองเท้าแตะที่ดารานิยมใส่โดยได้รับความนิยมทั้งดาราไทยและดาราต่างประเทศซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้มีงบประมาณจำกัด

one2fives  เป็นเว็บไซต์ศูนย์ รวมจัดอันดับ ที่รวบรวมข้อมูลทุกเรื่องมาไว้เพื่อคุณ

FIVE IS REAL เว็บไซต์คุณภาพที่จะรวบรวมเทรนด์ฮิตติดชาร์จทุกเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแสมาให้คุณได้ติดตาม